RSS

Author Archives: Artikhun

Mutants & Masterminds: Character Creation 6.5 (Gadgets & Gear)

Head

ตั้งแต่ ปืนยิงลำแสง, เข็มขัดลอยตัว, ชุดรบไฮเทค ฮีโร่และเหล่าร้ายต่างมีอาวุธและอุปกรณ์มากมายใช้งาน วายร้ายหลายคนอาจจะพยายามสร้างเครื่องจักรล้างโลกที่มีพลังทำลายมหาศาล ในขณะที่ฮีโร่มากมายใช้อุปกรณ์ต่างๆเพื่อช่วยในการปราบเหล่าร้าย Gadgets และอุปกรณ์ต่างๆจึงเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย โดยในบทนี้ จะเป็นการรวบรวม รวมไปถึงวิธีสร้างอุปกรณ์ต่างๆของเหล่าฮีโร่ รวมไปถึงฐานทัพต่างๆ ยานพาหนะมากมาย ไปจนถึงหุ่นยนต์ยักษ์ขนาดใหญ่


Table (3)

Device คือ ของหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่มีผลของEffect หรือ Power ต่างๆนอกเหนือจากปกติ ในแง่ของเกม Device คือ Effect ที่มี Removable flaw ติดอยู่ (สามารถย้อนไปดูในหมวด Power ได้) หมายความว่า เมื่อผู้ใช้สูญเสีย Device ไป ก็จะทำให้ความสามารถต่างๆที่มาจากEffect ของDevice หายไป
Point ที่ใช้ในการสร้างDevice คือ Power Points ; ซึ่งหมายความว่า Device นั้นนับเป็นส่วนหนึ่งของตัวละครผู้เล่น หากDeviceเกิดหายหรือถูกทำลาย ผู้เล่นจะสามารถได้รับDeviceกลับมาใช้งานอีกครั้งได้(ภายในระยะเวลา และวิธีการ ตามแต่ตกลงกับ GM) เช่น ชุดเกราะของ Ironman หรือ โล่ของCaptain America ที่เปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของตัวละครนั้น แต่หากว่าDevice ของผู้เล่น หาย หรือ สูญเสีย ไปเป็นการถาวร ผู้เล่นสามารถนำ Power Points ในส่วนของDeviceชิ้นนั้นโยกย้ายไปเพิ่มความสามารถอย่างอื่นแทนได้
Device นั้นสามารถเป็นสิ่งต่างๆได้มากมาย ตั้งแต่ ไม้กายสิทธิ์ ดาบวิเศษ อาวุธในตำนาน โล่ที่แข็งแกร่งที่สุด ชุดเกราะที่ไม่มีวันทำลายได้ แท่นบินลอยฟ้า แหวนหายตัว และอื่นๆอีกมากมาย
Device สามารถเกิดขึ้นได้จากทั้ง วิทยาศาสตร์ เวทมนต์ รวมไปถึงสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้อื่นๆ (สรุปคือมันเป็นอะไรก็ได้นั่นแหละ)

BattlesuitsSiver-Centurion-armor

เป็นเรื่องปกติทั่วไปใน Comic, Anime, หรือภาพยนตร์ หลายๆเรื่องที่เราจะเห็นตัวละครสวมใส่ เกราะ หรือชุด ที่ช่วยเพิ่มความสามารถหรือมอบพลังบางอย่างให้แก่ตัวละคร ภายในเกมMutants & Masterminds ชุดเหล่านั้นคือBattlesuits ที่ผู้เล่นสามารถสวมใส่ได้ ไม่ว่าชุดเหล่านั้นจะมาจาก วิทยาศาสตร์ เวทมนต์ หรือสิ่งเหนือธรรมชาติต่างๆ  โดยทั่วไปแล้ว Battlesuit จะมีคุณสมบัติส่วนใหญ่เหล่านี้

  • Armor: Protection เป็นหนึ่งใน Effect หลักของ Battlesuit ไม่ว่าจะมาจากแผ่นเหล็กที่แข็งแกร่งและทนทาน ใยผ้าที่ยืดหยุ่นจนกันกระสุนได้ หรือแม้กระทั่งสนามพลังหรือเกราะคุ้มกันที่ถูกสร้างขึ้นจากเวทย์มนต์ (ในชุดเกราะบางชุด Protection อาจจะมีสถานะเป็น Sustained เปรียบเสมือนเกราะคุ้มกันที่เปิดปิดการใช้งานได้)
  • Attacks: Battlesuits ส่วนใหญ่จะถูกติดตั้งไว้ด้วยอาวุธหลากหลายเพื่อนำมาใช้ในการต่อสู้ โดยอาวุธส่วนใหญ่จะเป็น Effect Damage หรือในบางกรณีคือ Effect Affliction นอกจากนั้นแล้วหากBattlesuit มีอาวุธหรือเครื่องมือในการจู่โจมที่หลากหลายผู้เล่นยังสามารถทำอาวุธเหล่านั้นเป็น Alternate Effects เพื่อลดจำนวนPoints ที่ใช้ ได้อีกด้วย
  • Immunity: Battlesuit บางชนิดได้มอบการปกป้องผู้สวมใส่ จากสิ่งแวดล้อมโดยรอบต่างๆ เช่นช่วยกันอากาศที่หนาวเย็น มีระบบปรับอากาศไว้รับมือกับอากาศร้อนจัด หรือช่วยกันน้ำและมีระบบอากาศช่วยในการหายใจใต้น้ำเป็นต้น
  • Movement: ความสามารถในการเคลื่อนที่ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญของBattlesuit ไม่ว่าจะเป็นการบินไปบนท้องฟ้า การเคลื่อนที่ไปบนพื้น การเสริมพลังกระโดดในระยะไกล้ หรือแม้กระทั่ง ความสามารถในการปีนป่ายบนผนังในแนวตั้ง และใบพัดสำหรับเคลื่อนที่ในน้ำ
  • Sensors: Battlesuits ส่วนใหญ่ยังมีระบบการตรวจจับต่างๆ เช่นระบบตรวจจับความร้อน และระบบโซน่าในชุดเกราะล้ำสมัย หรือแม้กระทั่งชุดเกราะเวทย์มนต์ที่สามารถตรวจสิ่งเหนิอธรรมชาติรอบตัวได้
  • Strength: นอกจากนั้นแล้วหนึ่งในความสามารถหลักที่เราจะเห็นได้ตามสื่อต่างๆมากมาย คือชุดเกราะที่ช่วยเสริมพละกำลังของผู้สวมใส่ทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น ยกของได้หนักขึ้น มีความแข็งแรงมากขึ้น

Costumesaeccacf951eda752522215e2144da815

นอกจากจะเพื่อความสวยงามและความเท่อย่างเดียวแล้ว ชุด Costume บางชุดยังช่วยเพิ่มการป้องกันและความทนทานให้แก่ผู้สวมใส่อีกด้วย (เช่น Battlesuit ด้านบน) โดยทั่วไปแล้วชุดCostume ต่างๆจะทนทานต่อพลังของผู้สวมใส่และไม่ถูกทำลายเมื่อผู้สวมใส่ใช้พลังต่างๆ เช่นตัวลุกเป็นไฟชุดก็จะไม่ไหม้ เมื่อผู้ใช้ยืดร่างหรือขยายร่างชุดก็จะยืดขยายตาม เป็นต้น แต่หากเกมไหนที่ GM ต้องการความสมจริง GMสามารถระบุได้ว่า การที่ชุดจะทนทานพลังของผู้เล่นได้นั้น ชุดนั้นจะต้องถูกจ่ายด้วย 1 Power Points เพื่อให้ทนพลังของผู้สวมใส่ได้ ไม่อย่างนั้นชุดก็จะขาดหรือโดนทำลายแบบเสื้อผ้าปกติทั่วไป

Enhanced Equipment

Devices บางอย่างนั้นก็มีรูปร่างเหมือนสิ่งของทั่วๆไป แต่กลับให้ผลพิเศษที่นอกเหนือจากปกติ เช่น ดาบเวทย์มนต์ที่มีพลังทำลายมากกว่าดาบทั่วไป แหวนที่ทำให้ผู้สวมใส่สามารถหายใจใต้น้ำได้ หรือแม้กระทั่งโล่ที่แข็งแกร่งที่สุด และสิ่งอื่นๆอีกมากมาย

Weapons

อาวุธต่างๆสามารถกลายเป็น Device ได้ไม่ว่าจะ อาวุธทำลายล้างต่างๆ (เหมือนใน Enhanced Equipment ด้านบน) หรือของแปลกๆ เช่นไม้เท้าเวทย์มนต์ที่สามารถยิงแสงออกมาได้ ปืนAlienที่สามารถยิงรังสีใส่ศัตรู Effect ส่วนใหญ่ของ Weapon จะเป็น Effect Damage แต่ว่าอาวุธบางอย่างก็สามารถมี Effect เป็น Effect Affliction ได้เช่นกัน (เช่นปืนแช่แข็ง ที่ทำให้ศัตรูแข็ง แทนการโจมตีตรงๆ เป็นต้น)

Other Devices

นอกจากที่กล่าวมาแล้ว Device ยังสามารถเป็นสิ่งต่างๆได้อีกมากมายตามแต่จินตนาการของผู้เล่นและ GM

Inventing

ตัวละครที่มี Inventor Advantage นั้น สามารถที่จะสร้าง Device ขึ้นมาใช้ระหว่างเกมได้โดยไม่เสีย Power Points ; โดยในขั้นตอนแรกนั้น ให้ผู้เล่นทำการคำนวน Effect Rank และ Power Points ที่ต้องใช้ในการสร้าง Device ตามปกติ โดยค่าเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการ คำนวณ Skill Check รวมไปถึงเวลาที่ต้องใช้ในการสร้างอีกด้วย (ของที่สร้างจาก Inventor Advantage ยังคงติด Power Level Limit ตามปกติ)

Design Check

ขั้นตอนแรกของการสร้าง Device ขึ้นมาในเกม ตัวละครนั้นๆจะต้องผ่าน ขั้นตอนการออกแบบ ซึ่งในขั้นตอนนี้นั้นให้ ทำการทอย Technology skill check เพื่อทำการออกแบบ Device ที่ต้องการ โดย ค่า DC =  10 + the invention’s total power point cost ยกเว้นส่วนลดที่ได้จาก Removable ที่ไม่นำมานับรวมด้วย ; นอกจากนั้นแล้วขั้นตอน Design ยังกินเวลา = (invention’s total power point cost) ชั่วโมง อีกด้วย แต่หากผู้เล่นต้องการที่จะลดระยะเวลาในการออกแบบลง ผู้เล่นสามารถลดระยะเวลาออกไปได้ โดยทุก ๆ (ลดเวลาลงครึ่งหนึ่ง) ผู้เล่นจะโดน -5 Check Penalty ในการออกแบบ

  • หาก การทอย Check นั้นสำเร็จ การออกแบบนั้นจะสามารถใช้งานได้ตามปกติ
  • ถ้าหากการทอยล้มเหลว การออกแบบนั้นจะล้มเหลว
  • หากการทอยล้มเหลวถึง 3 Degree of failure ขึ้นไป การออกแบบนั้นจะล้มเหลว แต่ตัวละครไม่รู้ว่ามันล้มเหลวและยังคงสามารถสร้างสิ่งนั้นต่อไปได้ (แต่สุดท้ายของจะพังเมื่อนำมาใช้งานจริง)

Construction Check

หลังจากการออกแบบเสร็จสิ้นแล้ว ผู้เล่นสามารถลงมือสร้างสิ่งนั้นขึ้นมาได้ โดย ระยะเวลาในการสร้าง = 4ชั่วโมง ต่อ Power Points ของสิ่งนั้น หมายความว่า การสร้างสิ่งของที่มี Pointsรวม10แต้ม จะต้องใช้เวลา40ชั่วโมง เมื่อทำการสร้างจนครบระยะเวลาแล้ว ให้ทำการทอย Technology Check DC = 10 + the invention’s power point cost อีกรอบ และ ผู้เล่นสามารถลดระยะเวลาในการสร้างได้ โดยทุก ๆ (ลดเวลาลงครึ่งหนึ่ง) ผู้เล่นจะโดน -5 Check Penalty ในการทอยCheck 

  • หาก การทอย Check นั้นสำเร็จ สิ่งที่สร้างขึ้นจะสามารถใช้ได้ตามที่ถูกออกแบบมา
  • ถ้าหากการทอยล้มเหลว สิ่งของที่สร้างจะพังและใช้การไม่ได้
  • หากการทอยล้มเหลวถึง 3 Degree of failure ขึ้นไป(หรือทอยได้ 1) Device จะถูกสร้างขึ้นมาและใช้งานได้ แต่จะเกิดเรื่องแย่ๆขึ้นในขณะที่ใช้สิ่งนั้น(ขึ้นอยู่กับ GM)

Using the Invention

หลังจากที่ Device ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว Device นั้นจะสามารถถูกนำไปใช้งานได้เพียง Scene เดียว ในเกม หลังจากนั้น อุปกรณ์ชิ้นนั้นจะพังหรือไม่สามารถใช้งานต่อได้ แต่หากผู้เล่นต้องการที่จะยิดอายุการใช้งานของ Device ชิ้นนั้นต่อไป สามารถทำได้ สองวิธี คือ

  1. จ่ายค่า Hero Points 1 แต้ม หลังจบScene นั้น เพื่อยืดอายุการใช้งานของDevice ชิ้นนั้นไปอีก 1 Scene (สามารถทำได้เรื่อยๆ)
  2. จ่ายค่า Power Points เท่ากับแต้มของ Device ชิ้นนั้น เพื่อให้Deviceนั้นสามารถใช้งานได้ฐาวร

Jury-Rigging Devices

ผู้เล่นสามารถ จ่าย Hero point เพื่อทำการ ข้ามขั้นตอนการออกแบบไป และทำการ ทอย Technology Check ในขั้นตอน Construction ทันทีได้เลย ; โดย DC ของการทอย จะ +5 จากปกติ (ระยะเวลาในการสร้างลดเหลือ 1 round ต่อ Point cost)

Magical Inventions

ในการสร้าง Device ที่เกิดจากเวทย์มนต์นั้น มีขั้นตอนเหมือนกับการสร้างของจากเทคโนโลยีทั่วไป จะแตกต่างแค่

  • เปลี่ยน Advantage จาก Inventor เป็น Artificer
  • เปลี่ยน Technology skill เป็น Expertise: Magic skill แทน

Magical Rituals

ตัวละครที่มี Ritualist Advantage สามารถที่จะทำ Magical Rituals ได้ เกิดเป็นเวทย์มนต์ที่สามารถใช้งานได้หนึ่งครั้งหลังการทำ Ritual เสร็จสิ้น สิ่งที่แตกต่างกันคือ

  • เปลี่ยน Advantage จาก Inventor เป็น Artificer
  • เปลี่ยน Technology skill เป็น Expertise: Magic skill แทน
  • เพิ่มระยะเวลาออก เป็น 4ชั่วโมง ต่อ Point
  • ลดระยะเวลาในการ Construct เป็น 10นาที ต่อ Point

Table (2)

นอกจาก Devices ต่างๆมากมายแล้ว ตัวละครหลายๆตัวยังมีการใช้งาน Equipment หรือสิ่งของทั่วไปที่สามารถหาได้เช่น มือถือ ตะเกียง ไฟฉาย กล้องถ่ายรูปเป็นต้น

Equipment Cost

Equipment นั้นถูกซื้อด้วย Equipment Points (ได้มาจาก Equipment Advantage) ไม่ใช่ Power Points เหมือนอย่างอื่นที่ผ่านมา

Equipment Effects and Features

ค่า Points ของ Equipment ต่างๆนั้น จะมีราคาเทียบเท่ากับ ราคาจาก Power Points ของ Effect ที่ Equipmentนั้นๆ มี ตัวอย่างเช่น ปืนที่ยิงได้ 3 Damage ก็จะมี Point เท่ากับ Range Damage Rank 3 นั่นเอง นอกจากนั้น Equipment ส่วนใหญ่ จะมี Effect Feature เป็น Effect หลักอีกด้วย

Alternate Equipment

Equipment ยังสามารถที่จะนำมาทำเป็น Array เหมือนกับ Power ได้อีกด้วย (ยกตัวอย่างเช่น Multi-too ที่สามารถใช้งานได้หลายๆอย่าง หรือ ปืนที่สามารถเปลี่ยนโหมดการยิงได้)

On-Hand Equipment

ตัวละครต่างๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องพกพาEquipment ทุกอย่างติดตัวตลอดเวลา แต่ผู้เล่นสามารถที่จะ จ่าย 1 Hero Point เพื่อขอ GM ว่าตัวละครได้ พกพา Equipmentใดๆ ที่ต้องการ ติดตัวมาด้วยได้ (ขึ้นอยู่กับ GM ว่าจะให้หรือไม่)

Restricted Equipment

GM สามารถที่จะกำหนดได้ว่าEquipment บางชนิดนั้น ผู้เล่นไม่สามารถที่จะหามาใช้ได้เช่น หากผู้เล่นเป็นประชาชนทั่วไป อาวุธสงคราม หรือ รถถัง เครื่องบินรบ อาจจะเป็น Equipment ที่ผู้เล่นไม่สามารถหามาใช้ได้ และไม่สามารถจ่ายPoint เพื่อจะซื้อมาได้ นอกเสียจากว่าผู้เล่นจะหามาได้จากภายในเกม

Damaging Equipment

Equipment ต่างๆสามารถถูกทำลายได้ โดยใช้กฏในการทำลายEquipment เหมือนกับการพัง Object ต่างๆทั่วไป

Repairing and Replacing

ผู้เล่นสามารถที่จะทำการซ่อมแซม Equipment ที่เสียหายหรือพังได้ด้วยการ ทอย Technology check (ความยากขึ้นอยู่กับ GM)

The Limits of Equipment

Equipment นั้นถึงแม้จะถูกกว่า Device และ Power ในแง่ของการใช้ Points ซื้อมา(เช่นการที่ ปืน 3 Damage มีราคาถูกกว่า Range Attack 3 Damage) แต่ว่า Equipment ก็ยังมีข้อจำกัดต่างๆมากกว่าเช่นกัน ซึ่งข้อจำกัดของEquipment มีดังนี้

Technological Limits

Equipment จะต้องเป็นสิ่งที่สามารถหาได้หรือเกิดขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับ Setting ของเกมที่เล่นอยู่เท่านั้น หากสิ่งของใดๆที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยเกินไป จะถูกนับว่าเป็น Device
ตัวอย่าง Device และ Equipment

  • Equipment = ปืนกลหนัก ; Device = ปืนยิงลำแสงย่อส่วน
  • Equipment = หน้ากากออกซิเจน ; Device = ยากินแล้วหายใจในที่ๆไม่มีอากาศได้

Availability

การตามหา หรือมี Equipment บางอย่างในครอบครอง อาจจะส่งผลเสียกับตัวละครในเกมได้ เช่นการที่ตัวละครเป็นนักข่าวทั่วไปแต่กลับมีอาวุธสงครามในครอบครอง หรือการที่ตัวละครมีของแปลกๆและมีมูลค่ามากกว่าที่ตัวละครควรจะหาได้

Bonus Stacking

ค่าพลังต่างๆของ Equipment ที่เหมือนกันไม่สามารถ Stack กันได้ (ไม่นำค่ามาบวกกัน แต่จะนับแค่ค่าสูงสุด)

No Extra Effort

Equipment ไม่สามารถใช้ Extra Effort ได้ เปรียบเสมือนการที่ ปืนคุณยังไงก็ไม่มีทางที่กระสุนจะแรงขึ้นแม้คุณจะทุ่มสุดตัวในการยิง ไฟฉายยังไงก็ไม่สว่างขึ้นแม้คุณจะใช้พลังสุดตัวหมดหัวใจในการเปิดมันก็ตาม

Damage and Loss

เมื่อ Equipment เสียหาย สูญหาย Equipmentนั้นจะพังไปฐาวร(ยกเว้นซ่อมได้) ไม่เหมือนกับ Device


Table (4)

รายการ Equipment ทั่วไปต่าง ๆ (ทุกอย่าง ราคา 1 Equipment Point ยกเว้นมีการระบุเพิ่มเติม)

Electronics

  • Camera: กล้องถ่ายรูปชนิดต่างๆ
  • Cell Phone: โทรศัพท์มือถือ และ สมาร์ทโฟน
  • Commlink: เครื่องมือขนาดเล็กสำหรับการพูดคุยติดต่อผ่านคลื่นวิทยุ
  • Computer: เครื่องคอมพิวเตอร์ และ โน๊ตบุ๊ค แล็ปท็อปต่างๆ
  • Audio Recorder: เครื่องบันทึกเสียง
  • Video Camera: กล้องวีดีโอพกพา

Criminal Gear

  • Handcuffs: กุญแจมือ Toughness 9 และต้องใช้ DC 20 Sleight of Hand Check เพื่อสะเดาะ
  • Lock Release Gun: เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กพกพาได้ ใช้ในการปลดล็อค Mechanical Lock (สามารถใช้แทนการทอยเต๋า และนับเป็นทอยได้ 10 ได้ ในการปลดล็อคกุญแจ)
  • Restraints: สายรัดมือทำจากพลาสติก มีผลคล้ายกุญแจมือToughness 5 และต้องใช้ DC 20 Sleight of Hand Check เพื่อเอามือออกมา (เมื่อใช้แล้ว ไม่มีทางเปิดออกได้ นอกจากจะตัดทิ้งเท้านั้น ไม่เหมือนกับกุญแจมือที่ไขออกได้)

Surveillance Gear

  • Binoculars: กล้องส่องทางไกลทั่วไป (ลดค่า Penalty จากการมองในระยะไกลไป 5)
  • Concealable Microphone: ไมโครโฟนขนาดเล็กที่พกพาได้ง่าย การจะตรวจหาต้องทอย Investigation or Perception check VS. Sleight of Hand Check
  • Mini-Tracer: ตัวส่งสัญญาณติดตามขนาดเล็ก สามารถใช้ Attack Check หรือ Sleight of Hand Check ในการติดตัวส่งสัญญาณได้ (ขึ้นกับว่าใช้อย่างไร) การจะหาตัวส่งสัญญาณให้เจอ ต้องทอย DC 20 Perception Check
  • Night Vision Goggles: แว่นมองกลางคืนที่สวมใส่เพื่อให้มองเห็นได้ในที่มืด (แต่โดน -2 Perception เนื่องจากระยะการมองเห็นและความชัดเจนของภาพมีน้อยกว่าสายตาปกติ)
  • Parabolic Microphone: เครื่องช่วยในการรับเสียง (+5 listening Perception check) จากเสียงที่มาในทิศทางที่ใช้เครื่องนี้

Survival Gear

  • Camo Clothing: ชุดพรางตัว (+5 equipment bonus on Stealth checks) ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับลายของชุดนั้น (เลือกลายตอนซื้อ)
  • Flash Goggles: แว่นตาสำหรับกันแสงจ้า +5 equipment bonus สำหรับ resistance checks ของ visual Dazzle attacks ที่เกี่ยวข้องกับแสงจ้า
  • Flashlight: ไฟฉายทั่วๆไป ช่วยส่องให้แสงสว่างได้ในระยะ 30ฟุต และตรงปลายทางของแสงมีความกว้าง 15ฟุต
  • Fire Extinguisher: ถังดับเพลิง สามารถใช้ดับไฟในช่องขนาด 10×10ฟุตได้ สองครั้ง (เป็น Move Action)
  • Gas Mask: หน้ากากกันแก๊สต่างๆ สามารถใช้ได้เป็นระยะเวลา 12ชั่วโมง
  • GPS: ระบบ GM +5 on checks to navigate (ใช้ได้เฉพาะภายนอกอาคารเท่านั้น)
  • Multi-tool: เครื่องมือที่รวม ไขควง, มีด, ที่เปิดขวด, ที่เปิดกระป๋อง, ไม้บรรทัดขนาดเล็ก, แหนบ, กรรไกร, คีมตัด และอื่นตามแต่ผู้เล่นตกลงกับGM
  • Rebreather: เครื่องช่วยหายใจขนาดเล็ก สามารถใช้หายใจได้ 2นาที (20 rounds)
  • SCUBA Gear: หน้ากากSCUBA สำหรับใช้ใต้น้ำ ต่อกับถังอากาศ สามารถใช้หายใจได้ 2ชั่วโมง

Utility BeltBaleBelt

Utility Belt เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราสามารถเห็นได้บ่อยๆเมื่อพูดถึงอุปกรณ์ในการต่อสู้กับอาชญากรรม (ส่วนใหญ่ก็เห็นมาจาก Batman ไอ้เข็มขัดของไม่มีวันหมดสารพัดนึกนั่นหละ) โดยภายใน Mutants & Mastermidns นั้น ผู้เล่นสามารถสร้าง Utility Belt ได้ โดย Utility Belt นั้นเป็นเสมือนช่องเก็บของ ที่จะคิดEquipment Point แบบเต็มราคากับของที่แพงที่สุดเพียงอันเดียวเท่านั้น นอกนั้นของอย่างอื่นจะนับว่ามี Equipment point แค่ 1
หมายความว่า หากใน Utility Belt มีของอยู่ 10 อย่าง ชิ้นที่แพงที่สุด มี Equipment Points = 16 ราคาของ Utility belt นั้นจะ = 25 (คิดจาก 16 + 1×9) และที่สำคัญ จำนวนของที่ยัดลงใน Utility Belt ได้นั้น มีจำนวนไม่จำกัด!! ตามแต่ที่ GM จะยอมให้ใส่ได้


Table (5)

สำหรับฮีโร่และเหล่าร้ายบางกลุ่มที่ไม่มี หรือไม่ได้ใช้พลังพิเศษต่าง ๆ ในการต่อสู้ อาวุธ ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่หลาย ๆ คนเลือกใช้กันในหลากหลายรูปแบบไล่ไปตั้งแต่ ดาบ มีด ไปจนถึงปืน และระเบิดในรูปแบบต่าง ๆ

Melee Weapons

อาวุธระยะประชิด ส่วนใหญ่จะเป็นอาวุธประเภท Strength-based Damage effect (นำ Strength rank ของผู้ใช้มาบวกรวมกับ damage rank ของอาวุธ) อาวุธระยะประชิดทั่วไปจะมีขีดจำกัดของ Strength Rank ที่สามารถนำมาบวกเพิ่มเข้าไปได้ โดยหาย Strength ที่นำมาใช้นั้นมีค่ามากเกินไป จะทำให้อาวุธพังเมื่อใช้งาน (4 สำหรับอาวุธไม้, 7 หรือ 8 สำหรับอาวุธโลหะ)

Table (10)

This slideshow requires JavaScript.

 

 

Ranged Weapons

อาวุธระยไกลแบ่งเป็นสองแบบคือ Thrown Weapons(อาวุธที่ใช้การขว้างปา) Projectile Weapon(อาวุธระยะไกลแบบอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นการยิง)
อาวุธระยะไกลที่เป็นแบบ Thrown weapons นั้นจะเป็นอาวุธแบบ Strength-based (เหมือน อาวุธระยะประชิด)

ข้อมูลพิเศษของอาวุธบางชนิด (อันที่มี *)

  • Shotgun: ปืนลูกซอง ยิงกระสุนที่ความแรง 5 Damage และมี +2 ความแม่นยำ เนื่องจากการกระจายของกระสุน แต่ Damage จะลดลงเหลือแค่ 3 หากยิงใส่คนที่มีชุดเกราะหรือการป้องกันต่าง
  • Taser: Affliction effect ของ Taser คือ daze, stun, Incapacitate (Fortitude Resistance, DC 15)
  • Bolos: ศัตรูทอย Dodge Resis สู้กับ DC 13 (Fail 1 Degree = hindered and vulnerable, 2 Degree = defenseless and immobilized)

Table (11)

Grenades and Explosives

ข้อมูลพิเศษของอาวุธบางชนิด (อันที่มี *)

  • Sleep gas: Affliction effect ของ Sleep gasfatigued, exhausted,  asleep (Fortitude Resistance, DC 14)
  • Tear gas: Affliction effect ของ Tear gas = dazed and visually impaired, stunned and visually disabled, and incapacitated (Fortitude Resistance, DC 14)

Table (12)


Table (6)

เมื่อมีอาวุธต่างๆแล้ว ก็ย่อมต้องมีอุปกรณ์ที่สามารถป้องกันอาวุธเหล่านั้นได้เกิดขึ้น โดยในหมวดหมู่ Armorนั้น จะรวบรวมชุดเกราะต่างๆตั้งแต่ยุคโบราณเช่นชุดเกราะอัศวินและโล่ ไปจนถึง ยุคใหม่อย่างชุดกันกระสุน

Table (13)


Table (7)

ไม่ใช่ทุกคนที่จะบินไดเ (หรือย้ายมวลสารในพริบตาหรือวิ่งด้วยความเร็วสูง) บางครั้งตัวละครต่างๆก็จำเป็นจะต้องใช้สิ่งอื่นในการเคลื่อนที่ไปยังที่ต่างๆ และยานพาหนะก็เป็นหนึ่งในวิธีหลักที่จะใช้เคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว และนอกจากนั้น ยานพาหนะ ยังอาจจะมีสิ่งอื่นๆติดตั้งควบคู่อยู่ด้วย (เช่นอาวุธ) ทำให้ยานพาหนะบางชนิด มีประโยชน์หลากหลายมากกว่าเพียงใช้ในการเคลื่อนที่

Vehicle Traits

Table (14)

Vehicles ต่างๆนั้นจะมี Traits หรือ Stat ต่างๆดังต่อไปนี้ Size, Strength, Speed, Defense, และ Toughness, เหมือนกับตัวละครผู้เล่น ค่าความสามารถในส่วนต่างๆของ Vehicles ต้องใช้ Points ในการเพิ่มค่านั้นๆขึ้น โดยค่าที่ใช้ในการเพิ่ม Traits ของ Vehicles คือ Equipment Points เหมือนๆกับที่ใช้ในการซื้อEquipment (หัวข้อด้านบน) โดยจำนวน Point ที่ใช้ในการเพิ่ม Trait ต่างๆ สามารถดูใด้จากตารางด้านบน

Size

ขนาดของ ยานพาหนะ จะถูกแบ่งตามหมวดหมู่ต่างๆตาม Size Categories ในตารางด้านบน โดยขนาดของยานพาหนะจะเป็ตัวกำหนดค่า Strength, Toughness, และ Defense เริ่มต้นของยานพาหนะนั้น *ยานพาหนะ เริ่มต้นที่ medium size เป็นค่าเริ่มต้น*

Strength

ค่า Strength ของ ยานพาหนะนั้น เป็นตัวกำหนด น้ำหนักสัมภาระต่างๆที่ ยานพาหนะชนิดนั้นแบกได้

Speed

ความเร็วของยานพาหนะนั้น ๆ จะ อ้างอิงจาก Power Effect ในหมวด Power ตามรูปแบบการเคลื่อนที่ ที่เหมาะสมของยานพาหนะนั้นๆ เช่น รถ ใช้ Speed, เครื่องบิน ใช้ Flight

Defense

ค่า Defense คือค่าที่ใช้ในการคิดความยากในการโจมตีให้โดน ยานพาหนะนั้นๆ (เหมือนๆกับ Dodge และ Parry ของ ตัวละคร)

Toughness

ค่า Toughness ของยานพาหนะ ที่ใช้ในการทอย Toughness Check เมื่อยานพาหนะโดนโจมตี

Features

Features คือ ความสามารถเพิ่มเติมของยานพาหนะนั้นๆ โดยทุกๆ Features จะมีราคา 1 Equipment Point เท่ากันหมด โดย Features ต่างๆ มีดังนี้

  • Alarm: ยานพาหนะมีการติดตั้งระบบเตือนภัยที่จะมีการแจ้งเตือนเมื่อมีผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตมาใช้งาน (ปลดสัญญานด้วย Technology check DC 20)-(ทุกๆ Equipment Point ที่จ่ายเพิ่ม DC จะเพิ่มอีก 5)
  • Caltrops: ยานพาหนะสามารถปล่อยตะปูเรือใบ หนาม หรือของมีคมบางอย่างออกมาได้ ทำให้ยางของยานพาหนะที่ตามมา แตกทันทีในกรณีที่ยานพาหนะนั้นเป็นของ Minion ; หากผู้ที่ตามมาไม่ใช่Minionฝ่ายที่โดนผลกระทบสามารถทอย Toughness Check DC 13 (Toughness = 3) ให้กับยางรถได้ โดย 1 Degree Fail = รถช้าลงครึ่งหนึ่ง, 2 Degree fail ขึ้นไป = ยานพาหนะนั้นไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อได้
  • Hidden Compartments: ยานพาหนะมีช่องลับสำหรับซ่อนของต่างๆได้ (ค้นหาด้วย Perception check DC 20)-(ทุกๆ Equipment Point ที่จ่ายเพิ่ม DC จะเพิ่มอีก 5)
  • Navigation System: ยานพาหนะมีระบบนำทาง +5 circumstance bonus ใน skill checks ที่เกี่ยวกับการค้นหาเส้นทาง
  • Oil Slick: ยานพาหนะสามารถปล่อยน้ำมันออกมาทางด้านหลัง ขนาด 20×20 ฟุต ทำให้รถที่ขับตามมาด้านหลังต้องทอย Vehicles check (DC 15) เพื่อควบคุมรถไม่ให้ลื่
  • Remote Control: ยานพาหนะนั้นๆสามารถถูกควบคุมจากระยะไกลได้ โดยไม่ต้องเข้าไปนั่งขับขี่อยู่ภายใน

Powers

ยานพาหนะต่างๆสามารถที่จะมี Power effectsของตัวเองได้ ซึ่งส่วนใหญ่Power Effect เหล่านี้จะมาในรูปแบบการใช้งานรวมไปถึงสิ่งต่างๆที่ติดมากับตัวยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นเกราะ ปืน หรืออื่นๆอีกมากมาย โดยราคาของ Power นั้น จะมีราคา Equipment Points เท่ากับ Power Points ที่ใช้ใน Power นั้นๆ
(ตัวอย่าง ถ้าพลัง X ใช้ 12 Power Points เมื่อมาอยู่ใน Vehicle พลัง X ก็จะใช้ 12 Equipment Points)

  • Armor: Armor ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องให้กันยานพาหนะต่างๆ เช่นเกราะของรถถังเป็นต้น โดย Armor จะมอบ +1 Toughness ต่อ 1 Equipment point
  • Cloaking Device: ระบบพลางตัวของยานพาหนะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเทำให้ radar ตรวจจับไม่ได้
    ใช้ 4 Equipment point สำหรับการซ่อนตัวจากการตรวจจับสักอย่าง ,
    8 Equipment point สำหรับซ่อนตัวจากทุกการพบเห็นทุกรูปแบบ
  • Immunity: ยานพาหนะส่วนใหญ่นั้นสามารถที่จะปกป้องผู้ขับขี่จากสิ่งต่างๆในสภาพแวดล้อมที่ยานพาหนะนั้นถูกออกแบบมาให้รองรับได้ เช่น ยานอวกาศสามารถปกป้องนักบินอวกาศจากความหนาวเย็นและการขาดอากาศภายในอวกาศ เรือดำน้ำสามารถปกป้องผู้คนภายในจากแรงดันมหาศาลใต้ทะเลลึก เป็นต้น
  • Smokescreen: ยานพาหนะสามารถปล่อยกลุ่มควันออกมาในวงกว้างเพื่อใช้ในการพรางตัวหรือบดบังทัศนะวิสัยต่างๆโดยรอบได้ 12 Equipment Point
  • Weapons: ยานพาหนะสามารถที่จะติดตั้งอาวุธต่างๆลงไปได้ เช่นปืนกลด้านบนรถถัง ปืนใหญ่ จรวดติดเครื่องบิน เป็นต้น (ราคาของอาวุธดูได้จากหมวด Weapons ด้านบน)

Shared Vehicles

ในบางครั้งนั้น ทีม หรือ กลุ่ม ของตัวละครต่างๆก็ใช้ยานพาหนะร่วมกัน โดยที่ค่า Equipment points ที่ใช้ในยานพาหนะนั้นๆ จะถูกแบ่งและหารกระจายให้แก่ตัวละครทุกตัวในกลุ่ม (เช่น ยานพาหนะมี 10 Equipment Point คนที่ใช้ร่วมกันมี 5คน แต่ละคนจะต้องเสียแค่ คนละ 2 Equipment Points หรือ 10/5 = 2 นั่นเอง)mystery-machine3

Alternate Vehicles

 

เหมือนกับ Alternate Equipment ด้านบน (ใช้ในกรณีที่ตัวละครมียานพาหนะ หลากหลายชนิดไว้ใช้งาน เช่น ตัวละคร A มีทั้ง รถ รถถัง เครื่องบิน เรือ)

ข้อมูลพิเศษของยานพาหนะบางชนิด (อันที่มี *)

  • Tank:
    – Damage < 7 ไม่สามารถทำอันตรายรถถังได้
    – ปืนใหญ่รถถัง(Ranged Damage 10, Burst Area 6)
    – heavy machine gun (Ranged Multiattack Damage 6).
    – การเข้าหรือออกจากรถถัง ใช้ 1 Move Action
    – การ Start เครื่องรถถัง ใช้ 1 Move Action
  • APC:
    – ปืนใหญ่ขนาดเล็ก (Ranged Damage 6, Burst Area 4)
    – Damage < 5 ไม่สามารถทำอันตราย รถAPC ได้
    – คนที่อยู่ภายในสามารถยิงปืนออกมาจากช่องด้านข้างตัวรถได้
  • Cutter:
    – light machine guns (Ranged Multiattack Damage 6)
  • Destroyer:
    – heavy guns (Ranged Damage 10, Burst Area 8).
  • Battleship:
    – massive gun batteries (Ranged Damage 13, Burst Area 9)
  • Submarine:
    – torpedoes (Ranged Damage 8, Burst Area 5)
    – ballistic missiles (Ranged Burst Area Damage 15 or higher)
  • Military copter:
    – machine guns (Ranged Multiattack Damage 6)
    – rockets (Ranged Damage 9, Burst Area 6).
  • Fighter Jet:
    – machine guns (Ranged Multiattack Damage 6)
    – air-to-air missiles (Ranged Damage 11, Burst Area 8, Homing 6).
  • Bomber:
    – powerful bombs (Burst Area Damage 12 or higher)
  • Space Fighter:
    – blaster cannons (Ranged Damage 10).
  • Space Cruiser:
    beam weapons (Ranged Damage 12)
    – energy torpedoes (Ranged Damage 12, Burst Area 10, Homing 8).
  • Space Battleship:
    – blaster cannons (Ranged Damage 15)
    – high-powered energy torpedoes (Ranged Damage 15, Burst Area 12, Homing 8).
  • Dimension Hopper:
    – rank 3 Movement (Dimensional Travel)
  • Mole Machine: = speed is a Burrowing effect
  • TIme Machine:
    – Movement (Time Travel) effect, typically rank 2 or 3

Table (15)


Table (8)

ไม่ว่าจะเป็นอุโมงถ้ำใต้ดิน ชั้นบนสุดของตึกระฟ้า อาคารใหญ่ใจกลางตัวเมือง ดาวเทียมที่ลอยอยู่เหนือวงโคจร หรือแม้กระทั่งฐานลับบนพื้นผิดดวงจันทร์ เหล่าฮีโร่และวายร้ายมากมายต่างมีฐานลับ(หรือไม่ลับ) เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะใช้เป็นสถานที่พักผ่อน สถานที่ฝึกซ้อม สถานที่สำหรับวางแผน สถานที่นัดประชุมและพบปะ ซึ่งในเกม Mutants & Masterminds นั้น Headquarters ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้เล่นจะสามารถรังสรรค์ขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นฐานลับส่วนตัวหรือเป็นฐานที่ใช้ร่วมกันกับอีกหลายๆตัวละคร

Headquarters Traits

Headquarters นั้นมีค่า Traits หลักๆอยู่สองอย่าง คือ Size และ Toughness โดยค่าทั้งคู่นั้นใช้ Equippment Points ในการเพิ่มเหมือนๆกับสิ่งอื่นในหมวดนี้นั่นเอง

table-16

Size

ขนาดของ Headquarters โดยราคาของ Equipment Points ที่ต้องจ่ายนั้น จะมากน้อยตามขนาดของสถานที่ (ดูได้จากตารางด้านบน)

Toughness

ค่าความแข็งแกร่งของ Headquarters นั้นๆ โดยราคาของ Equipment Points ที่ใช้ในการเพิ่ม Toughness นั้นดูได้จากตารางด้านบน

Power Level

Power Level ของ Headquarters คือค่าเฉลี่ย Power Level ของผู้ที่เป็นเจ้าของสถานที่นั้น (หรือตามที่ GM กำหนด)

Features

Features คือ ลักษณะหรือคุณสมบัติพิเศษต่างๆที่ Headquarters มอบให้แก่ผู้ใช้งาน แต่ละ Features มีค่า = 1 Equipment Points

  • Combat Simulator: ห้องจำลองการต่อสู้ที่ติดตั้งไว้ด้วยอุปกรณ์ต่างๆมากมาย (ภายในระบบเกมนั้น Combat SImulator คือห้องที่สามารถสร้าง Effect การโจมตีต่างๆที่เหมาะสมขึ้นได้ โดยมี Max Effect Rank = Headquarters Power Level)
  • Communications: อุปกรณ์สำหรับรับส่งหรือสื่อสารสิ่งต่างๆ เช่น วิทยุ ทีวี อุปกรณ์สื่อสารไร้เสียงระยะไกล และอื่นๆ (Bonus ผู้ใช้งานสามารถ ทอย Technology check DC 25 เพื่อใช้อุปกรณ์ที่มีลอบเข้าไปฟังข้อมูลผ่านช่องทางผิดกฏหมายต่างๆได้)
  • Computer: ตามชื่อ ภายในHeadquarters นี้มีระบบคอมพิวเตอร์อยู่ ทำให้ตัวละครที่อยู่ภายในนั้นสามารถใช้งาน Technology Skill ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ของ HQ ได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะใช้ในการหาข้อมูล แฮคระบบต่างๆ หรืออื่นๆอีกมากมาย
  • Concealed: HQ นั้นซ่อนตัวจากสายตาของโลกภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการซ่อนอยู่ใต้ดิน หลับอยู่หลังม่านน้ำตก หรือหลบซ่อนในที่ๆยากจะคาดถึง (DC ในการค้นหา = 10 และจะ +5 ในทุกๆ Equipment Points ที่จ่ายๆเพิ่มเข้าไป ไปจนสูงสุดที่ DC 30)
  • Defense System: ระบบป้องกันภัยที่จะจู่โจมผู้ที่บุกรุกเข้ามา โดยระบบป้องกันภัยสามารถมี Attack Effect รูปแบบใดก็ได้ที่ราคาไม่เกิน Power Level*2 และ Attack Bonus = Power Level
  • Deathtraps: ภายใน HQ ถูกติดตั้งไว้ด้วยกับดักต่างๆ เช่น กำแพงห้องที่บีบตัวเข้มาเรื่อยๆ หลุมกับดักที่มีหนามแหลมด้านล่าง ห้องปิดตายที่จะรมยาพิษใส่เหยื่อ และอื่นๆอีกมากมาย
  • Dimensional Portal: HQ นั้นมีประตูมิติที่สามารถใช้ในการเดินทางผ่านไปยังมิติอื่นๆได้ (รายละเอียดของประตูมิติ ขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างผู้เล่นและ GM)
  • Dock: ท่าเรือที่สามารถใช้ในการจอดยานพาหนะทางน้ำต่างๆได้ (HQ จะต้องมีส่วนหนึ่งติดน้ำเพื่อที่จะมีท่าเรือ)
  • Dual Size: ขนาดพื้นที่ภายในของ HQ นั้นมีขนาดไม่เท่ากับขนาดที่เห็นจากภายใน โดยที่ภายในนั้นมีขนาดใหญ่กว่าภายนอก โดย HQ ที่มี Feature นี้นั้น จะคิดค่า Size แค่เฉพาะของขนาดภายในที่ใหญ่กว่า อย่างเดียวเท่านั้น
  • Effect: HQ สมารถมี Effect ของ Power ต่างๆได้ โดยค่า Cost รวมของ Effect ที่มี จะต้องไม่มากกว่า Power Level*2 และไม่เกิน Power Level Limit
  • Fire Prevention System: ภายใน HQ มีการติดตั้งระบบป้องกันไฟ ที่ทำงานเหมือน Effect Nullify Fire 5 Rank
  • Garage: ลานจอดรถสำหรับจอดภาหนะทางภาคพื้นต่างๆ
  • Grounds: HQ นั้นมีที่ดินล้อมรอบ ที่มีขนาด Size ใหญ่กว่าขนาดของ HQ หนึ่งระดับ
  • Gym: Gym สำหรับการออกกำลังกายต่างๆ
  • Hangar: ลานจอดสำหรับยานพาหนะทางอากาศต่างๆ
  • Holding Cells: ห้องขังสำหรับคุมขังนักโทษ
  • Infirmary: ห้องและพื้นที่สำหรับปฐมพยาบาลต่างๆให้แก่ตัวละคร ตั้งแต่แผลเล็กน้อยไปยันการผ่าตัดฉุกเฉิน รวมไปถึงเตียงสำหรับใช้งาน
  • Isolated: HQ นั้นหลบซ่อนอยู่ในที่เปลี่ยวร้าง หรือยากแก่การเข้าถึง เช่นอยู่บนยอดเขาสูง ภายในป่าดงดิบ กลางทะเลลึก หรือแม้กระทั้งบนพื้นผิวดวงจันทร์
  • Laboratory: ห้อง Lab สำหรับทำการทดลองทางวิทยาศาตร์ต่างๆ
  • Library: ห้องสมุดสำหรับการค้นหาข้อมูลและความรู้ต่างๆภายในนั้น
  • Living Space: พื้นที่ส่วนตัวสำหรับอยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นส่วนสำหรับการพักผ่อนนอนหลับ ส่วนสำหรับทำครัว ห้องอาหาร ห้องน้ำ และอื่นๆ
  • Personnel: ภายใน HQ นั้นมีพนักงาน หรือคนที่คอยบริการและดูแลเรื่องต่างๆภายในนั้นให้ เช่น ลูกน้อง พ่อบ้าน หุ่นรับใช้ โกเลมหินที่คอยทำตามคำสั่ง หรืออื่นๆ
  • Power System: ภายใน HQ มีระบบผลิตพลังงานที่สามารถทำให้ HQ นั้นๆ มีพลังงานขับเคลื่อนและใช้งานในส่วนต่างๆได้ด้วยตัวเอง
  • Sealed: Headquarters นั้นถูกปิดตายจากโลกภายนอก มีเพียงผู้ที่เป็นเจ้าของหรือกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้นที่จะรู้ว่า สามารถเดินทางเข้าออกสถานที่นี้ได้อย่างไร
  • Secret: สถานที่ตั้งของ HQ นั้นถูกปิดปังเป็นความลับโดยมีอะไรสักอย่างปิดบังเป็นหน้าฉากอยู่เช่น หลับอยู่ในบ้านร้างบนเชิงเขา มีโรงแรมหรูเป็นสิ่งบังหน้า อยู่ชั้นบนสุดของอาคารหรูใจกลางเมือง โดยที่ (DC ในการค้นหา = 10 และจะ +5 ในทุกๆ Equipment Points ที่จ่ายๆเพิ่มเข้าไป ไปจนสูงสุดที่ DC 30)
  • Security System: ภายใน HQ นั้นติดตั้งไว้ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ (ใช่ DC 20 Technology ในการปลดระบบรักษาความปลอดภัยนี้ และจะ +5 ในทุกๆ Equipment Points ที่จ่ายๆเพิ่มเข้าไป ไปจนสูงสุดที่ DC 40)
  • Self-Repairing: โครงสร้างของ Headquarters  สามารถรักษาหรือซ่อมแซมตัวเองได้ [มีการรักษาในอัตราเทียบเท่าตัวละครปกติรักษาตัวเอง //แต่หากจ่าย 2 Equipment Points แทนที่ 1 HQ นั้นจะสามารถซ่อมแซมตัวเองจนกลับมาอยู่ในสภาพปกติได้หลังถูกทำลายในเวลา 7วัน]
  • Temporal Limbo: เวลาภายHQ จะไหลไปไม่เท่ากับเวลาในโลกภายนอก โดยทุกๆ 1 Equipment Point ที่จ่ายๆไป เวลาภายใน HQ จะลดลงไปเรื่อยๆ (ตัวอย่าง [1 Point เวลาไหลไป 1/2 ของโลกจริง, 2 Point เวลาไหลไป 1/4 ของโลกจริง, 3 Point เวลาไหลไป 1/8 ของโลกจริง และเพิ่มไปเรื่อยๆในอัตราเท่าตัวเสมอ] ) โดยที่ผู้ที่อยู่ภายในนั้น จะแก่ขึ้นในอัตราเท่ากับเวลาปกติในโลกภายนอก
  • Workshop: ใน HQ มีห้องสำหรับงานช่างและงานฝีมือต่างๆที่เต็มไปด้วย อุปกรณ์และเครื่องมือ

Shared Headquarters

ในการที่ผู้เล่นหลายคนจะแชร์ Headquarters ร่วมกัน ผู้เล่นสามารถทำได้โดย หารแบ่งค่า Equipment Points ของ HQ แบ่งตามจำนวนผู้เล่น (เหมือนกับ Vehicles ในด้านบน)

Alternate Headquarters

In the event that a character has more than one headquarters,
such as hidden bases scattered around the world, the
others are treated as Alternate Equipment: the character
pays the points for the most expensive HQ, then 1 equipment
point for each additional HQ of the same or lesser
cost. The extra headquarters are largely a convenience (for
heroes visiting other areas) and insurance against the loss
of any one HQ.
The only exception to the Alternate Headquarters guideline
is a shared headquarters (previously), the characters
sharing the HQ all contribute to its cost and pay for any
personal headquarters separately.

table-17

This slideshow requires JavaScript.


table-9

หุ่นยนต์ยักษ์, android ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์, โกเลมที่ถูกชุบชีวิตขึ้นมาด้วยวิชาโบราญ, กองทัพซอมบี้มหาศาลที่กำลังบุกทำลายโลกนี้อยู่ Constructs คือสิ่งไม่มีชีวิตที่สามารถเคลื่อนที่หรือขับเคลื่อนและขยับตัวได้เสมือนกับเป็นตัวละครตัวหนึ่ง

[Constructs จัดเป็น Minions] และผู้เล่นสามารถสร้าง Constructs มาใช้ได้ ผ่าน Minions Advantage

Construct Creation

ในการสร้าง Construct นั้นจะเหมือนกับการสร้างตัวละครทุกอย่าง โดย Constructs นั้นจะได้รับ Power Points มาจาก Minions Advantage(ตามปกติเหมือน Minions ทั่วไป) แต่จะต่างกันคือ

  • Construct ไม่มี Stamina และไม่สามารถรักษา Damage ได้ด้วยตัวเอง แต่จะทำได้ผ่านกระบวนการรักษาหรือซ่อมแซมเท่านั้น
  • Construct ไม่มี [Intellect และ Presence] หรือ [Strength และ Agility]
  • Construct มี Immunity ต่อ Fortitude Resistance ทุกชนิด
  • Construct ที่ไม่มี Intellect จะ Immune ต่อ Will Effect

Skills

Constructs สามารถมี Skills ได้เหมือนกับตัวละครทั่วไป แต่จะไม่สามารถมีSkills ที่มี Base มาจาก Ability ที่ไม่มีได้ (เช่น Construct ที่ไม่มี Intellect ไม่สามารถมี Expertise Skill ได้)

Advantages

Construct สามารถมี Advantages ได้ตามปกติตัวไป (แต่เหมือนกับในส่วนของSkillsด้านบน คือConstruct จะ ไม่สามารถมี Advantages ที่ต้องการ Ability ที่ Constructsไม่มี ได้)

Powers

Construct สามารถมี Powers ได้เหมือนกับตัวละครทั่วไป

Size

Construct เริ่มต้นที่ Size Medium

Commanding Constructs

เจ้าของ Construct สามารถสั่งการConstructs ของตัวเองได้ ผ่านวิธีการต่างๆตามที่ตกลงและคุยกับ GM

Damaging and Repairing Constructs

  • Construct ได้รับ Damage เหมือนกับสิ่งของที่ไม่มีชีวิตทั่วไป
  • การจะรักษา Construct นั้นจะต้องทำ Skill Check ผ่าน Skill ที่เหมาะสม (GM จะเป็นคนกำหนด DC และ Skill ที่ใช้)

This slideshow requires JavaScript.

 
Leave a comment

Posted by on October 6, 2016 in 06.5-Gadgets & Gear

 

Power Profile: Animal Power

Power Profile นั้นจะมีการแยกประเภทของพลังออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ 4กลุ่ม ดังนี้

Offensive Power = พลังที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี
Defensive Power = พลังที่ใช้ในด้านการป้องกัน
Movement Power = พลังที่ใช้ในการเคลื่อนที่
Utility Power = พลังที่เหลืออื่นๆ

วิธีใช้งาน

ในพลังแต่ละอย่างนั้น จะแบ่งออกเป็นสามส่วนด้วยกันคือ ส่วนชื่อ คำอธิบาย และEffect+ราคาของพลัง โดยในส่วนของEffect+ราคา จะถูกทำให้เป็น สีส้ม เพื่อง่ายต่อการมองเห็น


OFFENSIVE POWER

 CRUSHING GRIP

ใช้พละกำลังที่มากกว่ามหาศาลในการกอดหรือรัดเป้าหมายไว้ไม่ให้ดิ้นหลุดไปไหน ไม่ว่าจะเป็นการกอดรัดแบบท่า bear-hug หรือการขดตัวรัดเป้าหมายเหมือนงูใหญ่รัดเหยื่อ

Crushing Grip: Enhanced Strength, Limited to Grabs • 1 point per rank


FEROCIOUS CHARGE

พุ่งเข้าชนเป้าหมายอย่างรุนแรง เหมือนแรดขวิดหรือกระทิงวื่งชน

Ferocious Charge: Strength-based Damage, Limited to While Charging • 1 point per 2 ranks


NATURAL WEAPONS

ร่างกายมีอาวุธตามธรรมชาติต่างๆที่สามารถใช้ในการต่อสู้ หรือป้องกันตัวได้ ไม่ว่าจะเป็น เขา เขี้ยว หรือ กรงเล็บ

Natural Weapons: Strength-based Damage • 1 point per rank


QUILLS

ร่างปกคลุมไปด้วยขนหรือหนามแหลม เช่นหนามเม่นหรือเม่นทะเล ที่สามารถทิ่มแทงและทำร้ายผู้ที่มาสัมผัสได้

Quills: Reaction Damage (to being touched) • 4 points per rank


SHOCK

สามารถส่งกระแสไฟฟ้าแรงสูงเข้าใส่สิ่งที่เข้ามาสัมผัสได้ เหมือนกับปลาไหลไฟฟ้า

Shock: Cumulative Affliction (electric shock; Resisted and Overcome by Fortitude; Dazed, Stunned, Incapacitated) • 2 points per rank


TERRIFYING ROAR

ขู่คำรามด้วยเสียงอันทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวจนผู้พบเห็นต้องเข่าอ่อนตกใจ

Terrifying Roar: Enhanced Intimidation • 1 point per 2 skill ranks


VENOM

ร่างกายสามารถปล่อยพิษร้ายแรงออกมาได้ ไม่ว่าจะมาจากการ กัดหรือข่วน

Venom: Progressive Affliction (Resisted by Toughness, Overcome by Fortitude; Dazed, Stunned, Incapacitated) • 3 points per rank


WEBBING

สามารถสร้างใยเหนียวออกมาได้คล้ายกับใยแมงมุม ที่ทั้งแข็งแกร่งและยืดหยุ่นสามารถใช้ในการขึงดึงรัดมัดเป้าหมายได้ดั่งใจนึก

Webbing: Ranged Cumulative Affliction (Resisted by Dodge, Overcome by Damage; Hindered and Vulnerable, Defenseless and Immobilized), Extra Condition, Limited Degree • 3 points per rank


DEFENSIVE POWERS

PROTECTIVE HIDE

มีผิวหนังที่แข็งแกร่ง อาจจะเป็นชั้นของเกล็ด หรือหนังแข็งๆ หรือแม้กระทั่งกระดองแข็ง ที่ห่อหุ้มร่างกายเพื่อป้องกันจากอันตราย

Protective Hide: Protection • 1 point per rank


REGROWTH

เหมือนจิ้งจกหรือสิ่งมีชีวิตบางชนิด คุณสามารถงอกร่างกายส่วนที่ขาดออกไปให้กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ได้

Regrowth: Regeneration • 1 point per rank


SQUEEZE THROUGH

คุณสามารถที่จะหดบีบบิดร่างกายเข้าไปหลบในซอกหลืบหรือร่องเล็กๆที่เล็กเกินกว่ามนุษย์ทั่วไปจะเข้าไปได้ ได้
You can compress and shift your body to squeeze through
small spaces an ordinary human could never fit through.

Squeeze Through: Movement (Permeate), Limited to Small Spaces • 1 point per rank


MOVEMENT POWERS

SERPENT SLITHER

คุณสามารถที่จะเลื้อยได้เหมือนกับงู

Serpent Slither: Movement 1 (Slithering) • 2 points


WALL-WALKER

คุณสามารถที่จะเดินหรือเคลื่อนที่บนผนังและกำแพงต่างๆได้เหมือนกับแมลงหรือสัตว์เลื้อยคลานบางชนิด

Wall-Walker: Movement (Wall-Crawling) • 2 points per rank (up to 2 ranks).


WINGS

คุณมีปีกงอนขึ้นมาและสามารถบินไปบนฟ้าได้อย่างอิสระ

Wings: Flight, Wings • 1 point per rank


UTILITY POWERS

ANIMAL COMPANION

คุณมีสัตว์ตัวหนึ่งที่เพื่อนคู่หูที่รู้ใจและสามารถช่วยเหลือคุณได้ในเรื่องต่างๆ (สัตว์ตัวนี้จะถูกนับเป็นเสมือน NPC มีชื่อ ตัวหนึ่ง)

Animal Companion: Summon Animal Companion, Heroic, Self-Powered (see Summoning Powers) • 3 points per rank


ANIMAL FORM

คุณสามารถเปลี่ยนร่างกายให้กลายเป็นสัตว์ได้ หนึ่งชนิดโดยเมื่อคุณเปลี่ยนร่างแล้ว ค่าความสามารถและพลังต่างๆจะถูกเปลียนไปให้เหมือนกับสัตว์ชนิดนั้น(สามารถแปลงร่างกลับร่างได้ดั่งใจนึก)

Animal Form: Morph 1 (Animal Form), Metamorph • 6 points per rank


ANIMAL MIMICRY

คุณสามารถเลียนแบบความสามารถของสัตว์ชนิดต่างๆได้เป็นเวลาชั่วคราว

Animal Mimicry: Variable (physical traits), Limited to traits possessed by animals • 6 points per rank


ANIMAL SENSES

มีประสาทสัมผัสบางอย่างของสัตว์ซึ่งเหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป

  • Acute Olfactory: มีระบบการดมกลิ่นที่ดีกว่าคนทั่วไป (1 rank)
    หรือแม้กระทั่งสามารถแยกแยะกลิ่นของสิ่งต่างๆได้อย่างละเอียดถึงข้อมูลต่างๆที่ได้รับจากกลิ่นน้้น (2 ranks total)
    หรือใช้กลิ่นในการตามล่าหรือตามหาสิ่งต่างๆ (1 rank).
  • Extended: เพิ่มระยะของประสาทสัมผัสนั้นๆ (เช่นมองได้ไกลเหมือนนกบางชนิด) (1 rank).
  • Heat-Sensing Pits: สามารถตรวจจับความร้อนของสิ่งต่างๆได้คล้ายกับสัตว์เลื้อยคลานบางชนิด (Infravision,1 rank).
  • Multifaceted Eyes: มีดวงตามากมายเหมือนกับแมลงหรือแมงหลายๆชนิด ทำให้พื้นที่ในการมองเห็นมีมากขึ้น (Radius Vision,1 rank).
  • Navigation: เหมือนกับสัตว์หลายๆชนิดที่สามารถรับรู้ทิศต่างๆได้เอง (Direction Sense, 1 rank).
  • Night Vision: สามารถมองเห็นในเวลากลางคืนได้เหมือนกับสัตว์หลายๆชนิด(Low-light Vision, 1 rank).
  • Sonar: เหมือนสัตว์เช่นค้างคาวที่สามารถใช้คลื่นเสียงในการรับรู้สิ่งต่างๆรอบตัวได้ (Accurate Hearing, 2 ranks).
  • Survival Sense: มีสัญชาตญาณพิเศษในการเตือนภัยถึงอันตรายต่างๆ (Danger Sense, 1 rank).
  • Ultra-Hearing: สามารถได้ยินเสียงในคลื่นความถี่ที่คนทั่วไปไม่สามารถได้ยินได้(ultrasonic, 1 rank).

Animal Senses: Senses • 1 point per rank

 


ANIMAL SUMMONING

คุณสามารถที่จะเรียกหาสัตว์ต่างๆที่อยู่ในบริเวณรอบๆมาเพื่อใช้งานได้ โดยสัตว์ที่มาตามเสียงเรียกนั้นจะทำสิ่งที่คุณต้องการให้อย่างสุดความสามารถเท่าที่สัตว์ตัวนั้นจะทำได้

Animal Summoning: Summon Animals 3, Broad Type (Animals), Horde, Multiple Minions 5 (32 animals), Self- Powered (see Summoning Powers) • 42 points


CHAMELEON CAMOUFLAGE

คุณสามารถเปลี่ยนสีผิวและลวดรายบนร่างกายให้เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยลอบเพื่อใช้ในการพรางตัวได้

Chameleon Camouflage: Concealment (Visual) 2, Blending • 2 points


CREATE CHIMERA

คุณมีพลังที่สามารถ “รวม” สัตว์ต่าวชนิดสองหรือมากกว่า ตัว เข้าด้วยกันเพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ขึ้นมา และสิ่งมีชีวิตตัวนั้นจะเชื่อฟังและอยู่ภายใต้การควบคุมของคุณ (เมื่อคุณยกเลิกผลของพลังนี้ สิ่งมีชีวิตตัวนั้นจะกลับสู่สภาพเดิมของสัตว์แต่ละตัวที่ถูกจับมาผสมกัน)

Create Chimera: Summon Chimera, Broad Type (Mixed Animals), Heroic, Limited to Available Animals • 4 points per rank


MULTIPLE LIMBS

คุณมีแขนหรือขางอกเพิ่มออกมามากกว่าปกติ เหมือนแมลง แมง หรือ สัตว์บางชนิด

Multiple Limbs: Extra Limbs • 1 point per rank


SPEAK WITH ANIMALS

คุณสามารถพูดและสื่อสารกับสัตว์ได้

Speak With Animals: Comprehend 2 (Animals) • 4 points

 
Leave a comment

Posted by on June 19, 2016 in Animal

 

Power Profile: Armor Power

Power Profile นั้นจะมีการแยกประเภทของพลังออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ 4กลุ่ม ดังนี้

Offensive Power = พลังที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี
Defensive Power = พลังที่ใช้ในด้านการป้องกัน
Movement Power = พลังที่ใช้ในการเคลื่อนที่
Utility Power = พลังที่เหลืออื่นๆ

วิธีใช้งาน

ในพลังแต่ละอย่างนั้น จะแบ่งออกเป็นสามส่วนด้วยกันคือ ส่วนชื่อ คำอธิบาย และEffect+ราคาของพลัง โดยในส่วนของEffect+ราคา จะถูกทำให้เป็น สีส้ม เพื่อง่ายต่อการมองเห็น


 

OFFENSIVE POWER

BLASTER

รูปแบบการโจมตีพื้นฐานของเหล่าฮีโร่สวมใส่ชุดเกราะในการ์ตูนต่างๆ โดยการปล่อยพลังงานเป็นลำแสงออกจากส่วนต่างๆของชุดเกราะ เพื่อจู่โจมเป้าหมาย ไม่ว่าจะจากทาง มือ อาวุธติดไหล่ หรือแม้กระทั่งยิงออกมาจากหน้าอก

Blaster: Ranged Damage • 2 points per rank


CAPTURE WEAPON

อุปกรณ์ในการจับกุมเป้าหมายโดยไม่ถึงตายในรูปแบบต่างๆที่ติดตั้งอยู่ภายในชุดเกราะ พร้อมทำการปล่อยออกมาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ลูกดอกยาสลบ, ตาข่าย, Stun gas, สายรัด, หรืออื่นๆอีกมากมาย

Capture Weapon: Ranged Affliction (Resisted and Overcome by Fortitude; Impaired, Disabled, Incapacitated) • 2 points per rank


HOMING MISSILE

ยิง Missile ที่มีระบบล็อคเป้าตรวจจับความร้อนออกมาจากชุดเกราะ เพื่อจู้โจมเป้าหมาย

Homing Missile: Ranged Damage, Homing 2 Linked to Senses 1 (Infravision) • 3 points + 2 points per rank


MACHINE-GUN

ปืนกลในรูปแบบต่างๆที่ติดตั้งกับชุดเกราะพร้อมใช้งาน สามารถจู่โจมหลายเป้าหมายได้พร้อมกัน

Machine-Gun: Ranged Multiattack Damage • 3 points per rank


MICRO-MISSILES

Missile ขนาดเล็กที่ซุกซ่อนอยู่ตามส่วนต่างๆของชุดเกราะ ที่สามารถปล่อยออกมาพร้อมกันได้ในจำนวนมากๆเพื่อโจมตีเป้าหมายเป็นบริเวณกว้าง

Micro-Missiles: Burst Area Ranged Damage • 3 points per rank


SURFACE SHOCK

ปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาตามพื้นผิวของชุดเกราะเพื่อทำการช็อตทุกอย่างที่เข้ามาสัมผัส

Surface Shock: Affliction (Resisted and Overcome by Fortitude; Dazed, Stunned, Incapacitated), Reaction (when touched) • 4 points per rank

 


STRENGTH ENHANCEMENT

ชุดเกราะมีระบบ ExoSkeleton ที่ช่วยเพิ่มพละกำลังให้กับผู้ที่สวมใส่
น้ำหนักของ สิ่งของที่ยกได้ x2 ขึ้นทุกๆRank

Strength Enhancement: Enhanced Strength • 2 points per rank


DEFENSIVE POWERS

ARMOR

พื้นผิวด้านนอกของชุดเกราะทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานเพื่อป้องกันอันตรายภายนอกต่างๆแก่ผู้สวมใส่

Armor: Protection • 1 point per rank


FORCE FIELD

ชุดเกราะสร้างสนามพลังบางๆขึ้นรอบตัวผู้สวมใส่เพื่อป้องกันอันตรายต่างๆ

Force Field: Protection • 1 point per rank


LIFE SUPPORT SYSTEM

ภายในชุดเกราะมีระบบ Life Support ที่ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบอากาศสำรอง ระบบปรับอากาศภายนชุดเกราะ เป็นต้น

Life Support System: Immunity 10 (Life Support) • 10 points


MIND SHIELD

ระบบการทำงานของชุดเกราะช่วยในการปกป้องผู้สวมใส่จากการโจมตีหรือการแทรกแซงทางจิตต่างๆ

Mind Shield: Enhanced Impervious Will, Limited to Mental Effects • 1 point per rank

หรือในขั้นสูงกว่า ระบบป้องกันของเกราะ จะสามารถป้องกันการโจมตีทางด้านจิตต่างๆได้อย่าง สมบูรณ์แบบ

Mind Shield: Immunity 5 (one mental power, such as psychic mind control) or Immunity 10 (all psychic or psionic mental powers) • 5 or 10 points


SENSORY SHIELD

ระบบของเกราะสามารถช่วยป้องผู้สวมใส่จากบางสิ่งที่เป็นมลภาวะทางประสาทสัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็น เสียงที่ดังเกิดไป, กลิ่นไม่พึงประสงค์ หรืออื่นๆ

Sensory Shield: Immunity 5 (Sensory Affliction Effects) • 5 points per rank


MOVEMENT POWERS

AQUATIC TURBINES

ใบพัดกำลังแรงสูงที่ติดอยู่กับชุดเกราะเพื่อการเคลื่อนที่ในน้ำ

Aquatic Turbines: Swimming • 1 point per rank


LEG HYDRAULICS

ระบบไฮดรอลิกแรงสูงที่ติดอยู่บริเวณขาหรือช่วงล่างของชุดเกราะ เพื่อให้ผู้สวมใส่ชุดสามารถกระโดดได้ในระยะทางไกลกว่าปกติ

Leg Hydraulics: Leaping • 1 point per rank


LIMB EXTENDERS

ชุดเกราะในส่วนของแขนหรือขาสามารถที่จะยืดยาวออกมากกว่าขนาดปกติได้

Limb Extenders: Elongation • 1 point per rank


SKATES

ติดตั้งล้อโรลเลอร์สเก็ตไว้บริเวณส่วนเท้าของชุดเกราะเพื่อความเร็วในการเคลื่อนที่
-ล้อทั่วไปที่ไม่มีเครื่องยนต์ช่วย Rank Limit = 3
-ล้อที่มีพลังงานช่วยในการขับเคลื่อน Rank Limit = 8

Skates: Speed • 1 point per rank


THRUSTERS

ไอพ่นที่ติดอยู่ในบริเวณต่างๆของชุดเกราะ ช่วยในการบินขึ้นฟ้าและเคลื่อนที่อย่างอิสระในทิศทางต่างๆ

Thrusters: Flight • 2 points per rank


TUNNELING

สว่านหรือเครื่องมือขุดเจาะอุโมงต่างๆ ที่ติดตั้งไว้ใช้งานกับชุดเกราะ

Tunneling: Burrowing • 1 point per rank


UTILITY POWERS

COMBAT COMPUTER

ระบบComputer ที่ช่วยในการวิเคราะห์ และประมวลผลเกี่ยวและช่วยในการคำนวณการรับมือกับอันตรายๆต่างๆล่วงหน้า เพื่อเพิ่มความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ

Combat Computer: Enhanced Advantages (choose from Assessment, Close Attack, Favored Opponent (previously assessed), Improved Initiative, Ranged Attack, and Uncanny Dodge) plus Enhanced Defense (Dodge and Parry) • 1 point per rank of Enhanced Advantages + 1 point per rank each of Enhanced Dodge and Parry


COMMUNICATION SYSTEM

มีระบบสื่อสารติดตั้งอยู่ภายในชุดเกราะ

Comm System: Radio Communication • 5 points per rank


SENSORS

ระบบ Sensor พิเศษต่างๆที่ติดตั้งอยู่ภายในชุดเกราะ

Sensors: Senses • 1 point per rank

 
Leave a comment

Posted by on June 12, 2016 in Armor

 

Power Profile: Air Power

ในส่วนของ Power Profile คือส่วนที่ผมจะทำการแปล “พลัง” ต่างๆจากในหนังสือ Power Profile โดยในหมวดแรกนั้น คือหมวด Air Power หรือพลังที่เกี่ยวข้องกับลม

Power Profile นั้นจะมีการแยกประเภทของพลังออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ 4กลุ่ม ดังนี้

Offensive Power = พลังที่เกี่ยวข้องกับการโจมตี
Defensive Power = พลังที่ใช้ในด้านการป้องกัน
Movement Power = พลังที่ใช้ในการเคลื่อนที่
Utility Power = พลังที่เหลืออื่นๆ

 

วิธีใช้งาน

ในพลังแต่ละอย่างนั้น จะแบ่งออกเป็นสามส่วนด้วยกันคือ ส่วนชื่อ คำอธิบาย และEffect+ราคาของพลัง โดยในส่วนของ Effect+ราคา จะถูกทำให้เป็น สีส้ม เพื่อง่ายต่อการมองเห็น


 

OFFENSIVE POWER

AIR BLAST

จู่โจมเป้าหมายอย่างรุนแรงด้วงแรงอัดกระแทกจากอากาศ

Ranged Damage (air pressure) • 2 points ต่อ rank


AIR BURST

สร้างระเบิดที่เกิดจากอากาศซึ่งถูกบีบอัดและปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรงกระแทกทำลายสิ่งต่างๆในรัศมี

Ranged Burst Area Affliction (Resisted and Overcome by Fortitude; Dazed, Stunned, Incapacitated) • 3 points per rank


AIR RIFLE

ใช้แรงดันของอากาศเพื่อยิงวัตถุขนาดเล็กออกไปคล้ายกับกระสุนปืน

Ranged Damage (projectiles) • 2 points per rank


BLINDING GUST

ใช้แรงลมพัดพาเศษฝุ่นหรือระอองผงต่างๆขึ้นมาเพื่อบดบังการมองเห็นของเป้าหมาย

Ranged Cumulative Affliction (Resisted by Dodge, Overcome by Fortitude; Impaired, Disabled, Unaware), Limited to Vision • 2 points per rank


FLINGING GUST

สร้างกระแสลมที่มีความเร็วสูงเพื่อพัดเป้าหมายให้ลอยออกไปจากจุดที่อยู่
ถ้าการโจมตีนี้โดนเป้าหมาย ให้เป้าหมายทำการทอย “Strength หรือ Dodge Check โดยมี DC=Effect Rank + 10”
ถ้าเป้าหมายทอยCheck ผ่าน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถ้าเป้าหมายทอยไม่ผ่าน เป้าหมายจะลอยไปในระยะทางไกลเท่ากับ Distance Rank = Effect Rank – Target Weight Rank

Move Object, Limited Direction • 1 point per rank


STENCH

สร้างกลิ่นเหม็นอย่างร้ายแรงขึ้นมาในอากาศซึ่งทำให้ผู้ที่ได้รับกลิ่นมีอาการมึนงงจนถึงขั้นทำให้หมดสภาพได้

Version เป้าหมายเดี่ยว
Ranged Cumulative Affliction (Resisted and Overcome by Fortitude; Dazed, Stunned, Incapacitated), Smell-Dependent • 2 points per rank

Version เป็นพื้นที่ มีผลสองเทอน (เทอนที่ใช้งาน และ เทอนถัดไป) ขนาดพื้นที่ ที่มีกลิ่น มีขนาดเป็นทรงกลมรัศมี 15 ฟุต
Ranged Cloud Area Cumulative Affliction (Resisted and Overcome by Fortitude; Dazed, Stunned, Incapacitated), Smell-Dependent • 3 points per rank


SUFFOCATION

ตัดอากาศออกจากบริเวณรอบๆของเป้าหมาย ทำให้เป้าหมายไม่มีอากาศในการหายใจ

Ranged Progressive Affliction (Resisted and Overcome by Fortitude; Fatigued, Exhausted, Incapacitated) • 4 points per rank


TORNADO

สร้างลมหมุนอย่างรุนแรงที่สามารถทำลายสิ่งก่อสร้างหรือยกสิ่งของที่ไม่ได้ถูกยึดไว้ลอยขึ้นจากพื้นได้
โดยTornado จะพัดพาสิ่งของที่มีน้ำหนักเท่ากับ Weight Rang <= Effect Rank
Tornado ที่เกิดขึ้นจากพลังนี้นั้น มีเส้นผ่าศูนย์กลาง เท่ากับ 30 ฟุต

Cylinder Area Move Object, Damaging • 4 points per rank, +1 point per rank per +1 area distance rank


 

DEFENSIVE POWERS

AIR BUBBLE

สร้างฟองอากาศบริสุทธิ์ที่สาารถใช้ในการหายใจได้ขึ้นมาในขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 30ฟุต รอบตัวของผู้ใช้
ผู้ใช้จะต้องใช้ Free Action ทุกๆเทอน ในการคงสภาพของฟองอากาศไว้ ไม่อย่างนั้น ในเทอนถัดไปหลังจากหยุดการคงสภาพ ฟองอากาศจะแตก

Air Bubble: Immunity 2 (Suffocation), Affects Others, Cloud Area, Sustained • 6 points + 2 points per +1 area distance rank


AIR SHIELD

สร้างโล่อากาศที่มีความหนาแน่นสูงมากขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวจากสิ่งต่างๆรอบตัว
ผู้ใช้จะต้องใช้ Free Action ทุกๆเทอน ในการคงสภาพของโล่อากาศนี้ไว้ ไม่อย่างนั้น ในเทอนถัดไปหลังจากหยุดการคงสภาพ โล่อากาศจะสลายไป

Air Shield: Protection, Sustained • 1 point per rank


AIR SUPPLY

สร้าง อากาศบริสุทธิ์ที่สามารถใช้หายใจได้เป็นอากาศสำรองขึ้นมาภายในปอดของผู้ใช้ทำให้ผู้ใช้เสมือนมีอากาศหายใจตลอดเวลาแม้อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถหายใจได้ (เช่นใต้น้ำ)
ผู้ใช้จะต้องใช้ Free Action ทุกๆเทอน ในการคงสภาพของอากาศนี้ไว้ ไม่อย่างนั้น ในเทอนถัดไปหลังจากหยุดการคงสภาพ อากาศสำรองที่สร้างขึ้นจะหมดไป

Air Supply: Immunity 2 (suffocation), Sustained • 2 points


DEFLECTING WINDS

สร้างกำแพงของลมหมุนที่สามารถปัดสิ่งต่างๆที่พุ่งเข้ามาในรัศมีออกไปได้ เป็นเหมือนกับกำแพงลมที่สามารถปกป้องผู้ที่อยู่ภายในจากอันตรายต่างๆใด้
เมื่อใช้งาน ทอย d20+Effect Rank(หากทอยเต๋าได้ <= 10 ให้ทำการ +10 เพิ่มเข้าไปในจำนวนที่ทอยได้) จำนวนตัวเลขที่ได้ คือค่าตัวเลขป้องกัน ที่ฝ่ายโจมตี จะต้องทอยโจมตีให้ได้เกินกว่านั้น มิฉะนั้นการโจมตีนั้นจะไม่สามารถสู้แรงลมได้และถูกพัดออกไป

Deflecting Winds: Deflect, Burst Area, Limited to Physical Projectiles • 1 point per rank


MIST

สร้างหมอกหนาขึ้นมาบดบังการมองเห็นในบริเวณโดยรอบ (ข้อเสียคือ ตัวผู้ใช้ก็จะได้รับผลกระทบการมองไม่ค่อยเห็นของหมอกตัวเองด้วย)

Mist: Environment (Visibility) • 1 point per rank (–2 การมองเห็น)

Mist: Environment (Visibility) • 2 points per rank (–5 การมองเห็น)


WIND WALL

สร้างกำแพงของกระแสลมแรงที่พัดไปทางเดียวอย่างต่อเนื่องขึ้น
โดยหากสิ่งใดพยายามจะผ่านกำแพงลมนี้ สิ่งนั้นจะต้อง “Strength หรือ Speed Check สู้กับ Effect Rank + 10”
หากทอยไม่ผ่านสิ่งนั้นจะโดนลมพัดไปในระยะทางไกลเท่ากับ Distance Rank = Effect Rank – Weight Rank

Wind Wall: Line Area Move Object, Limited Direction (along the length of the line) • 2 points per rank +1 point per rank per +1 distance rank of wall length.


 

MOVEMENT POWERS

AIR-WALKING

สามารถวิ่ง เดิน หรือเหยียบอยู่บนอากาศได้เสมือนเป็นของแข็ง (แต่หากล้มตัวลงนอนหรือนั่ง ก็จะร่วงลงมาตามปกติ)

Air-Walking: Flight 1, Subtle, Quirk (the prone condition causes you to fall, –1 point) • 2 points


FULL SAIL

สร้างกระแสลมขึ้นมาเพื่อทำให้พาหนะทางน้ำต่างๆที่เคลื่อนที่ด้วยแรงลม สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น โดย Speed Rank = Effect Rank

Full Sail: Swimming, Affects Objects, Limited to Wind-Powered Vehicles, Alternate Effect: Flight, Affects Objects, Gliding, Limited to Wind-Powered Vehicles • 1 point per 2 ranks + 1 point (for the alternate effect)


GLIDING

คุณสามารถ ร่อน ผ่านอากาศได้โดยการควบคุมทิศทางและกระแสของอากาศที่กำลังผ่านตัวไป

Gliding: Flight, Gliding • 1 point per rank


GROUNDING

คุณสร้างจุดอับลม ที่ทำให้สิ่งต่างๆที่เคลื่อนที่โดยใช้ลมไม่สามารถเคลื่อนที่ได้และต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่

Grounding: Nullify Flight and Swimming Based on Air, Concentration, Cylinder Area, Effortless • 4 points per rank


WIND-RIDING

คุณสามารถร่อนผ่านอากาศได้เหมือนกับ Effect Gliding ด้านบน แต่ต่างกันตรงที่ พลังนี้ทำให้คุณสามารถควบคุมลมได้ดีขึ้นและมากขึ้น จนสามารถลอยอยู่กลางอากาศได้ และควบคุมการเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระเสมือนบินอยู่บนท้องฟ้า

Wind-Riding: Flight • 2 points per rank


 

UTILITY POWERS

AEROKINESIS

ใช้ความสามารถในการควบคุมลมรอบๆสิ่งของที่ต้องการ เพื่อยกและเคลื่อนที่สิ่งของเหล่านั้นได้

Aerokinesis: Move Object • 2 points per rank


AIR CREATURES

ทำให้มวลของลมจำนวนหนึ่งกลายเป็นสิ่งที่เคลื่อนไหวด้วยตัวเองได้ และสามารถรับฟังคำสังของผู้สร้างได้

Air Creatures: Summon Air Creature 6 (90-point minion) • 12 points

Untitled-1


AIR FORM

เปลี่ยนสภาพร่างกายของตนเองจากเลือดเนื้อกลายเป็นมวลอากาศที่มีความนึกคิดได้

Air Form: Concealment 4 (visual), Flight 1, Insubstantial 2 (gaseous) • 20 points


AIR SENSE

สามารถรับรู้ถึง กระแส ทิศทาง และการเคลื่อนไหวของลมต่างๆรอบตัวได้

Air Sense: Senses 2 (Air Awareness, Ranged Touch) • 2 points


SOLID AIR

สามารถทำการเปลี่ยนอากาศให้กลายเป็นของแข็งใสคล้ายแก้วได้ (แต่แข็งกว่า) และสามารถกำหนดรูปทรงได้

Solid Air: Create Solid Air Objects • 2 points per rank


WIND CONDITIONS

สร้างลมแรงขึ้นในบริเวณโดยรอบ ทำให้การเคลื่อนที่ต่างๆยากขึ้น (ลบแต้มเต๋าที่ทอยได้)

Wind Conditions: Environment (Impede Movement) • 1 point (-2 เวลาทอยอะไรที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่)

Wind Conditions: Environment (Impede Movement) • 2 point (-5 เวลาทอยอะไรที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่)


WHISPERING WIND

ควบคุมกระแสลมให้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการนำพา “เสียง” ไปในระยะทางไกล เพื่อส่งข้อความให้แก่เป้าหมายที่อยู่ไกลเกินกว่าที่จะสามารถคุยด้วยได้ตามปกติ

Whispering Wind: Communication (auditory, air), Subtle 1 • 1 point + 4 points per rank

 
Leave a comment

Posted by on April 29, 2016 in Air

 

Mutants & Masterminds: Character Creation 06.5 (Powers)

mnmcover3

001

Modifiers เป็นสิ่งที่เพิ่มขีดความสามารถของ Effect ในรูปแบบต่างๆตั้งแต่ปรับปรุงบางสิ่งเล็กน้อยๆไปจนถึงเปลี่ยนแปลงวิธีใช้งานของEffect อย่างสิ้นเชิง
Modifiers ที่เพิ่มความสามารถของ Effect เรียกว่า Extras
Modifiers ที่ลดความสามารถของ Effect เรียกว่า Flaws
Modifiers ที่ใส่ให้กับ Effectนั้น นอกจากจะมีระบุไว้ว่าอย่างอื่น การเปลี่ยนแปลงของModifiersนั้นถือเป็นผลถาวร


Applying Modifiers

Effect ต่างๆจะเพิ่มราคา(Points)ขึ้นตาม Extraต่างๆที่ถูกนำมาใส่ ในขณะที่ Flawจะทำให้ราคาของEffectนั้นๆลดลง


Fractional Costs

ถ้าการลดราคาของ Effect ด้วย Flaw ทำให้ Pointsของ Effectนั้นๆลดลงจนต่ำกว่า 1 ราคา Points ที่ต้องจ่ายจะเป็นดังนี้

  • หากลดลงจนเป็น +0 จะต้องจ่าย = 1 Point ต่อ 2 Rank
  • หากลดลงจนเป็น -1 จะต้องจ่าย = 1 Point ต่อ 3 Rank
  • หากลดลงจนเป็น -2 จะต้องจ่าย = 1 Point ต่อ 4 Rank
  • หากลดลงจนเป็น -3 จะต้องจ่าย = 1 Point ต่อ 5 Rank (ไม่มีต่ำกว่านี้)

Partial Modifiers

ในกรณีที่ Effect ที่จะใส่ modifier มีมากกว่า 1 Rank คุณสามารถใส่ modifierให้กับ Effectแค่บางRankได้ โดยราคาของEffect จะเปลี่ยนแปลงแค่กับRankที่มี modifier เท่านั้นและ rank ที่ไม่มีmodifier จะมีราคาเท่ากับEffect ตามปกติ


Extra

  • Accurate ; 1 flat ต่อ rank = +2 attack check bonus ต่อ rank
  • Affects Corporeal ; 1 flat ต่อ rank = Effect มีผลกับ Corporeal beings ที่มีRank <= Rank ของ Extra นี้
  • Affects Insubstantial ; 1-2 flat points = Effect มีผลกับ Insubstantial beings ครึ่งหนึ่ง(1 rank) หรือ มีผลเต็มที่(2 ranks)
  • Affects Objects ; +0-1 ต่อ rank = Effect ที่ Resisted ด้วย Fortitude มีผลกับสิ่งไม่มีชีวิตอย่างเดียว(+0) หรือ มีผลทั้งกับสิ่งที่มีและไม่มีชีวิต(+1)
  • Affects Others ; +0-1 ต่อ rank = Effect ที่มีผลเป็น Personal มีผลกับผู้อื่นเท่านั้น(+0) หรือ มีผลทั้งกับผู้อื่นและตนเอง(+1)
  • Alternate Effect ; 1-2 flat points = เพิ่มความสามารถรองของพลังที่สามารถสลับกันใช้กับพลังหลัก(+1) หรือ สามารถใช้ทั้งพลังหลักและความสามารถรองพร้อมๆกันได้(+2)
  • Alternate Resistance ; +0-1 ต่อ rank = เปลี่ยนค่า Resistance ของ Effect เป็นอย่างอื่น (+0 หรือ +1 ขึ้นอยู่กับGM)
  • Area ; +1 ต่อ rank = เปลี่ยนพลังเป้าหมายเดียวให้หลายเป็นมีผลกับทุกเป้าหมายในพื้นที่
  • Attack ; +0 ต่อ rank = Personal effect สามารถใช้ใส่ผู้อื่นได้ในรูปแบบเหมือนการโจมตี
  • Contagious ; +1 ต่อ rank = Effect มีผลกับผู้ที่ทำการสัมผัสกับเป้าหมาย
  • Dimensional ; 1-3 flat points = Effect สามารถใช้ใส่เป้าหมายข้ามมิติได้ มิติที่เลือกเพียงมิติเดียว(+1) หรือ กลุ่มของมิติที่มีความไกล้เคียงกัน(+2) และ ทุกๆมิติ(+3)
  • Extended Range ; 1 flat ต่อ rank = เพิ่มระยะของ Effect ขึ้นเท่าตัวในทุกๆ Rank ของ Extra
  • Feature ; 1 flat ต่อ rank = เพิ่มผลเล็กๆน้อยๆลงไปใน Effect (มีผลเหมือน Effect: Feature)
  • Homing ; 1 flat ต่อ rank = Attack effect ได้รับโอกาศในการโจมตีเป้าหมายใหม่หากพลาด 1ครั้ง/Extra Rank
  • Impervious ; +1 ต่อ rank = Ignores ผลของ effects ที่มี Rank น้อยกว่า ครึ่งหนึ่งของ Extra rank
  • Increased Duration ; +1 ต่อ rank = เพิ่มระยะเวลาของ Effect
  • Increased Mass ; 1 flat ต่อ rank = เพิ่มมวลที่ Effect มีผล
  • Increased Range ; +1 ต่อ rank = ปรับระดับระยะการโจมตีของ Effect
  • Incurable ; 1 flat point = Effect ไม่สามารถรักษาได้โดย Healing หรือ Regeneration
  • Indirect ; 1 flat ต่อ rank = Effect เกิดจากจุดอื่นนอกเหนือจากตัวผู้ใช้
  • Innate ; 1 flat point = Effect ไม่สามารถโดน Nullified
  • Insidious ; 1 flat point = ผลของ Effect ยากที่จะทำการตรวจพบ
  • Linked ; 0 flat points = Effect ตั้งแต่สองขึ้นไป มีผลพร้อมกัน
  • Multiattack ; +1 ต่อ rank = Effect สามารถใช้ใส่หลายเป้าหมาย หรือเป้าหมายเดียวหลายครั้ง
  • Penetrating ; 1 flat ต่อ rank = Effect มีผลทะลุ Resistance ที่เป็น Impervious
  • Precise ; 1 flat point = Effect มีสามารถใช้ในงานที่ต้องการความละเอียดอ่อนมากกว่าปกติได้
  • Reach ; 1 flat ต่อ rank = เพิ่มระยะของ Effect 5ฟุต/Rank
  • Reaction ; +1 or 3 ต่อ rank = เปลี่ยน Action ที่ใช้ในการ ใช้งาน Effectให้กลายเป็น Reaction
  • Reversible ; 1 flat point = ผู้ใช้ Effect สามารถยกเลิกผลของ Effect ได้ตามใจนึก
  • Ricochet ; 1 flat ต่อ rank = Effect สามารถ ชิ่งกระดอนหรือเปลี่ยนทิศทาง เมื่อกระทบกับสิ่งต่างๆได้
  • Secondary Effect ; +1 ต่อ rank = Effect มีผลกับเป้าหมายสองครั้ง
  • Selective ; +1 ต่อ rank = Effect มีผลกับเป้าหมายที่ผู้ใช้ต้องการให้เกิดผลใส่เท่านั้น
  • Sleep ; +0 ต่อ rank = Effect ทำให้เป้าหมาย หลับ แทนที่ incapacitated.
  • Split ; 1 flat ต่อ rank = Effect สามารถแยกเป้าหมายได้ แต่จะลดความรุนแรงลง
  • Subtle ; 1-2 flat points = Effect ตรวจพบยาก(+1) หรือ ไม่สามารถตรวจจับได้เลย(+2)
  • Sustained ; +0 ต่อ rank = เปลี่ยนระยะเวลาของ Effect จาก Permanent ให้กลายเป็น Sustained
  • Triggered ; 1 flat ต่อ rank = Effect สามารถตั้งเงื่อนไขการเกิด Effect ได้
  • Variable Descriptor ; 1-2 flat points = Effect สามารถเปลี่ยน descriptors ได้

Flaw

  • Activation ; –1-2 flat points = Effect ต้องใช้ move (1 point) หรือ standard (2 points) action ในการทำงาน
  • Check Required ; –1 flat ต่อ rank = ต้องทอย check ให้ผ่านจึงจะใช้ Effect ได้
  • Concentration ; –1 ต่อ rank = ระยะเวลาจาก Sustained ลดเหลือ concentration
  • Diminished Range ; –1 flat ต่อ rank = ลดระยะของ Effect
  • Distracting ; –1 ต่อ rank = ติดสถานะ Vulnerable ตอนใช้งาน
  • Fades ; –1 ต่อ rank = Effect เสีย 1 rank ทุกๆครั้งที่ใช้งาน
  • Feedback ; –1 ต่อ rank = หากสิ่งที่ใช้ Effect สร้างขึ้นได้รับ Damage ผู้ใช้จะโดนด้วย
  • Grab-Based ; –1 ต่อ rank = Effect สามารถใช้ได้เมื่อทำการ Grab เป้าหมายแล้วเท่าน้น
  • Increased Action ; –1-3 ต่อ rank = เพิ่ม Action ที่ต้องใช้ในการใช้ Effect
  • Limited ; –1 ต่อ rank = เพิ่มข้อกำหนดต่างๆให้ Effect
  • Noticeable ; –1 flat point = Effect สามารถตรวจพบหรือรับรู้ได้ง่ายมาก
  • Permanent ; –1 ต่อ rank = Effect มีผลถาวร
  • Quirk ; –1 flat ต่อ rank = มีผลเสียหรือเงื่อนไขยุ่งยากบางอย่างในการใช้งาน
  • Reduced Range ; –1-2 ต่อ rank = ลดประเภท Range ของ Effect
  • Removable ; –1-2/5 flat points = Effect สามารถถูกถอดออกจากผู้ใช้งานได้
  • Resistible ; –1 ต่อ rank = เป้าหมายสามารถทอย resistance check ได้
  • Sense-Dependent ; –1 ต่อ rank = เป้าหมายต้องสามารถรับรู้ถึงEffect ได้ เพื่อให้ผลทำงาน
  • Side Effect ; –1-2 ต่อ rank = เมื่อใช้ Effect ไม่สำเร็จจะเกิดผลเสียบางอย่างกับผู้ใช้
  • Tiring ; –1 ต่อ rank = ทำให้เหนื่อยหลังใช้งาน
  • Uncontrolled ; –1 ต่อ rank = ผู้ใช้ไม่สามารถควบคุม Effect ได้(GM เป็นคนควบคุม)
  • Unreliable ; –1 ต่อ rank = ต้องทอยเต๋าทุกครั้งเวลาใช้ หากออก 1-10 ใช้งานไม่ได้

Part ก่อนหน้าของหมวด Power


Let’s Create Character Together

ในส่วนนี้คือการสร้างตัวละครแบบเป็นขั้นตอนไปทีละส่วนๆ ตามหัวข้อของบทความที่กล่าวถึง โดยเมื่อผู้อ่านทำตามครบทุกหัวข้อ คุณก็จะได้ตัวละครของคุณมาใช้ใในการเล่น Mutants & Masterminds ทันที
โดยจะมีตัวอย่างการสร้างตัวละครไปพร้อมๆกัน 4ตัวละครที่แตกต่างกัน เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น

6. ทำการสร้าง Power ของตัวละคร

6. ให้คุณนำ Power Points ที่มี มาทำการสร้าง Power ของตัวละคร
(แบบฟอร์มที่จะใช้ต่อไปนี้เป็นรูปแบบที่ถูกนำมาแก้ไขใหม่ ต้นฉบับถูกเขียนขึ้นโดย http://tabletop-thailand.blogspot.com/ )

Character Concept : __________________________________
Power Level : ____
Power Points : ____

ABILITIES
___ [STR] Strength กล้าม
___ [STA] Stamina ถึก
___ [AGI] Agility คล่อง
___ [DEX] Dexterity แม่น
___ [FGT] Fighting ต่อสู้
___ [INT] Intellect ปัญญา
___ [AWE] Awareness ไหวพริบ
___ [PRE] Presence บุคลิก

___ : Initiative [ความเร็วในการเริ่ม Turn]

DEFENSE
___ Dodge [เริ่มต้นเท่ากับ AGI] หลบหลีกโจมตีไกล
___ Parry [เริ่มต้นเท่ากับ FGT] ป้องกันโจมตีประชิด
___ Toughness [เริ่มต้นเท่ากับ STA] รับการโจมตี
___ Fortitude [เริ่มต้นเท่ากับ STA] สุขภาพต้านพิษโรคภัย
___ Will [เริ่มต้นเท่ากับ AWE] พลังใจกันถูกสะกด

SKILLS
___ Acrobatics (ได้โบนัสจาก AGI ต้องฝึกถึงใช้ได้) โลดโผน
___ Athletics (ได้โบนัสจาก STR) กรีฑา
___ Close Combat (ได้โบนัสจาก FGT) ต่อสู้ระยะประชิด
___ Deception (ได้โบนัสจาก PRE) หลอก
___ Expertise (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) ชำนาญด้าน(X) (ต้องระบุด้วยว่าด้านไหน)
___ Insight (ได้โบนัสจาก AWE) อ่านใจ
___ Intimidation (ได้โบนัสจาก PRE) ขู่
___ Investigation (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) สืบ
___ Perception (ได้โบนัสจาก AWE) ประสาทสัมผัส
___ Persuasion (ได้โบนัสจาก PRE) ชักจูง
___ Ranged Combat (ได้โบนัสจาก DEX)ยิงไกล ต้องระบุด้วยว่าอาวุธใด
___ Sleight of Hand (ได้โบนัสจาก DEX ต้องฝึกถึงใช้ได้) มือไว
___ Stealth (ได้โบนัสจาก AGI) ซ่อน
___ Technology (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) เทคโนฯ
___ Treatment (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) ดูแลรักษาบาดแผล
___ Vehicles (ได้โบนัสจาก DEX ต้องฝึกถึงใช้ได้) ขับขี่

Advantage
1.
2.
3.

Powers
1.
2.
3.

ตัวอย่างทั้ง 4 ตัวละคร

ตัวละครที่ 1.
Character Concept : หญิงคนหนึ่งที่ค้นพบว่าตนเองมีพลังสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างของร่างกายตนเอง และผู้ที่ยินยอมให้เธอเปลี่ยนแปลงรูปร่างให้ เธอจึงใช้พลังที่มีทำงานเป็นคนรับเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าให้กับบุคคลต่างๆโดยคิดค่าจ้างมหาศาล โดยส่วนใหญ่เธอจะทำงานให้กับคนในวงการใต้ดินซะเป็นส่วนใหญ่ และใช้พลังแปลงร่างของตนเองในการหลบหนีจากการตามล่าจากเหล่าผู้ทรงอิทธิพล ทางการ หรือคนที่มีปัญหากับเธอ อยู่ตลอดเวลา
Power Level : 8
Power Points : 120 -38 -15 -27 -15 – 25 = 0

ABILITIES = 38 Power Points
1 [STR] Strength กล้าม
6 [STA] Stamina ถึก
2 [AGI] Agility คล่อง
2 [DEX] Dexterity แม่น
4 [FGT] Fighting ต่อสู้
2 [INT] Intellect ปัญญา
1 [AWE] Awareness ไหวพริบ
1 [PRE] Presence บุคลิก

+2 : Initiative [ความเร็วในการเริ่ม Turn]

DEFENSE = 15 Power Points
2 +4 = 6 Dodge [เริ่มต้นเท่ากับ AGI] หลบหลีกโจมตีไกล
4 +2 = 6 Parry [เริ่มต้นเท่ากับ FGT] ป้องกันโจมตีประชิด
6 +5 = 11 Fortitude [เริ่มต้นเท่ากับ STA] สุขภาพต้านพิษโรคภัย
6 = 6 Toughness [เริ่มต้นเท่ากับ STA] รับการโจมตี
1 +4 = 5 Will [เริ่มต้นเท่ากับ AWE] พลังใจกันถูกสะกด

SKILLS = 27 Power Points
2 +0 = x
Acrobatics (ได้โบนัสจาก AGI ต้องฝึกถึงใช้ได้) โลดโผน
1 +2 = +3 Athletics (ได้โบนัสจาก STR) กรีฑา
Close Combat (ได้โบนัสจาก FGT) ต่อสู้ระยะประชิด
4 +0 = +4 Close Combat [Unarmed]
1 +8 = +9 Deception (ได้โบนัสจาก PRE) หลอก
Expertise (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) ชำนาญด้าน(X) (ต้องระบุด้วยว่าด้านไหน)
2 +7 = +9 Expertise [Artistic]
2 +3 = +5 Expertise [Pop Culture]
2 +9 = +11 Expertise [Streetwise]
1 +8 = +9 Insight (ได้โบนัสจาก AWE) อ่านใจ
1 +0 = +1 Intimidation (ได้โบนัสจาก PRE) ขู่
2 +2 = +4 Investigation (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) สืบ
1 +6 = +7 Perception (ได้โบนัสจาก AWE) ประสาทสัมผัส
1 +4 = +5 Persuasion (ได้โบนัสจาก PRE) ชักจูง
Ranged Combat (ได้โบนัสจาก DEX)ยิงไกล ต้องระบุด้วยว่าอาวุธใด
2 +0 = +2 Ranged Combat
2 +0 = x Sleight of Hand (ได้โบนัสจาก DEX ต้องฝึกถึงใช้ได้) มือไว
2 +2 = 4 Stealth (ได้โบนัสจาก AGI) ซ่อน
2 +0 = x Technology (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) เทคโนฯ
2 +0 = x Treatment (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) ดูแลรักษาบาดแผล
2 +0 = x Vehicles (ได้โบนัสจาก DEX ต้องฝึกถึงใช้ได้) ขับขี่

Advantage = 15 Power Points
1. Benefit, Alternate Identity [8]: Many Identity
2. Benefit, Wealth [2] (indepently wealthy)
3. Connected
4. Contacts.
5. Daze (Deception)
6. Fascinate (Deception)
7. Well-informed

Powers = 25 Power Points

  1. Humanoids ShapeShift: Morph 3 = (15 PP)
    -> +20 Deception checks to disguise; Broad group
  2. Immunity 7 = (7 PP)
    -> Alteration Effects, Disease, Poison
  3. Transform: Cumulative Affliction 1 = (3 PP)
    -> 3rd degree: Transformed, Resisted by: Fortitude, DC 11; Cumulative, Increased Duration 3: continuous; Limited: humanoids into other humanoid forms, Limited Degree (third only)

ตัวละครที่ 2.
Character Concept : พ่อครัวหนุ่มคนหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก และเป็นผู้รอดชีวิตคนเดียวจากเหตุการครั้งนั้น เขาค้นพบว่าหลังจากเหตุในครั้งนั้นตัวเขามีความเร็วที่เหนือมนุษย์ โดยตัวเขานั้นสามารถเร่งความเร็วสูงสุดเมื่อเคลื่อนที่ได้มากกว่า 6,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Power Level : 8
Power Points : 120 -36 -13 -16 -5 -50 = 0

ABILITIES = 36 Power Points
2 [STR] Strength กล้าม
2 [STA] Stamina ถึก
4 [AGI] Agility คล่อง
3 [DEX] Dexterity แม่น
4 [FGT] Fighting ต่อสู้
0 [INT] Intellect ปัญญา
1 [AWE] Awareness ไหวพริบ
2 [PRE] Presence บุคลิก

+4 : Initiative [ความเร็วในการเริ่ม Turn]

DEFENSE = 13 Power Points
4 = 4 Dodge [เริ่มต้นเท่ากับ AGI] หลบหลีกโจมตีไกล
4 = 4 Parry [เริ่มต้นเท่ากับ FGT] ป้องกันโจมตีประชิด
2 +6 = 8 Fortitude [เริ่มต้นเท่ากับ STA] สุขภาพต้านพิษโรคภัย
2 = 2 Toughness [เริ่มต้นเท่ากับ STA] รับการโจมตี
1 +7 = 8 Will [เริ่มต้นเท่ากับ AWE] พลังใจกันถูกสะกด

SKILLS = 16 Power Points
4 +2 = +6
 Acrobatics (ได้โบนัสจาก AGI ต้องฝึกถึงใช้ได้) โลดโผน
2 +5 = +7 Athletics (ได้โบนัสจาก STR) กรีฑา
Close Combat (ได้โบนัสจาก FGT) ต่อสู้ระยะประชิด
 4 +7 = +11 Close Combat [Unarmed]
2 +3 = +5 Deception (ได้โบนัสจาก PRE) หลอก
Expertise (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) ชำนาญด้าน(X) (ต้องระบุด้วยว่าด้านไหน)
 0 +5 = +5 Expertise [Cooking]
1 +0 = +1 Insight (ได้โบนัสจาก AWE) อ่านใจ
2 +0 = +2 Intimidation (ได้โบนัสจาก PRE) ขู่
0 +0 = x Investigation (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) สืบ
1 +5 = +6 Perception (ได้โบนัสจาก AWE) ประสาทสัมผัส
2 +0 = +2 Persuasion (ได้โบนัสจาก PRE) ชักจูง
Ranged Combat (ได้โบนัสจาก DEX)ยิงไกล ต้องระบุด้วยว่าอาวุธใด
 3 +3 = +6 Ranged Combat [Throwing]
3 +2 = +5 Sleight of Hand (ได้โบนัสจาก DEX ต้องฝึกถึงใช้ได้) มือไว
4 +0 = +4 Stealth (ได้โบนัสจาก AGI) ซ่อน
0 +0 = x Technology (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) เทคโนฯ
0 +0 = x Treatment (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) ดูแลรักษาบาดแผล
3 +0 = x Vehicles (ได้โบนัสจาก DEX ต้องฝึกถึงใช้ได้) ขับขี่

Advantage = 5 Power Points
1. Defensive Roll [3]
2. Instant Up
3. Move-by Action

Powers = 50 Power Points

  1. Super-Speed = (40 PP)
    1. Fast Defense: Enhanced Trait 14 (linked)
      -> Traits: Dodge +7 ( +11), Parry +7 ( +11)
    2. Quick Start: Enhanced Trait 3 (linked)
      -> Advantages: Improved Initiative 3
    3. Quickness 10 (linked)
      -> Perform routine tasks in -10 time ranks
    4. Run On Water: Movement 1 (linked)
      -> Water Walking 1: you sink if you are prone; Limited: While Moving
    5. Run Up Walls: Movement 2 (linked)
      -> Wall-crawling 2: full speed; Limited: While Moving Speed 10 (linked) -> Speed: 2000 miles/hour, 4 miles/round
  2. Super-Speed Stunt = (10 PP)
    1. Fast Attack: Strength-based Damage 3
      -> DC 20; Multiattack, Selective
    2. Hit Every one: Strength-based Burst Area Damage 3
      -> DC 20; Burst Area: 30 feet radius sphere, DC 13, Selective

ตัวละครที่ 3.
Character Concept : ศาสตราจารย์ ผู้สอนวิชาประวัติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้ออกไปตั้งแคมป์กลางป่ากับเหล่านักศึกษา และในคืนหนึ่งที่ ศาสตราจารย์ ได้ออกไปเดินเล่นกลางดึกนั้นเขาก็ได้ค้นพบกับแท่งโลหะประหลาด และเมื่อเขาเก็บมันขึ้นมาดู แท่งโลหะนั้นก็เกิดขยับเองได้ และปักเข้าไปกลางอกของเขาแต่แทนที่ศาสตราจารย์จะบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเขากลับไม่เป็นอะไรเลย เมื่อเขากลับมาจากการตั้งแคมป์ครั้งนั้นเขาได้ค้นพบว่า แท่งโลหะนั้นได้ผสานเข้าไปในร่างกายเขา และทำให้เขาสามารถเปลี่ยนร่างเป็นเหมือนอัศวินในชุดเกราะเหล็กซึ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายเขาอย่างมหาศาล อีกทั้งยังทำให้เขาสามารถบินได้อีกด้วย
Power Level : 8
Power Points : 120 -22 -8 -10 -3 -77 = 0

ABILITIES = 22 Power Points
0 [STR] Strength กล้าม
0 [STA] Stamina ถึก
1 [AGI] Agility คล่อง
1 [DEX] Dexterity แม่น
6 [FGT] Fighting ต่อสู้
1 [INT] Intellect ปัญญา
1 [AWE] Awareness ไหวพริบ
1 [PRE] Presence บุคลิก

+1 : Initiative [ความเร็วในการเริ่ม Turn]

DEFENSE = 8 Power Points
1 +5 = 6 Dodge [เริ่มต้นเท่ากับ AGI] หลบหลีกโจมตีไกล
6 = 6 Parry [เริ่มต้นเท่ากับ FGT] ป้องกันโจมตีประชิด
0 = 0 Fortitude [เริ่มต้นเท่ากับ STA] สุขภาพต้านพิษโรคภัย
0 = 0 Toughness [เริ่มต้นเท่ากับ STA] รับการโจมตี
1 +3 = 4 Will [เริ่มต้นเท่ากับ AWE] พลังใจกันถูกสะกด

SKILLS = 10 Power Points
1 +0 = x
 Acrobatics (ได้โบนัสจาก AGI ต้องฝึกถึงใช้ได้) โลดโผน
0 +0 = +0 Athletics (ได้โบนัสจาก STR) กรีฑา
Close Combat (ได้โบนัสจาก FGT) ต่อสู้ระยะประชิด
 6 +0 = +6 Close Combat [Unarmed]
1 +0 = +1 Deception (ได้โบนัสจาก PRE) หลอก
Expertise (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) ชำนาญด้าน(X) (ต้องระบุด้วยว่าด้านไหน)
 1 +4 = +5 Expertise [History]
 1 +4 = +5 Expertise [Teaching]
1 +0 = +1 Insight (ได้โบนัสจาก AWE) อ่านใจ
1 +3 = +4 Intimidation (ได้โบนัสจาก PRE) ขู่
1 +0 = x Investigation (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) สืบ
1 +4 = +5 Perception (ได้โบนัสจาก AWE) ประสาทสัมผัส
1 +0 = +1 Persuasion (ได้โบนัสจาก PRE) ชักจูง
Ranged Combat (ได้โบนัสจาก DEX)ยิงไกล ต้องระบุด้วยว่าอาวุธใด
 1 +5 = +6 Ranged Combat [Throwing]
1 +0 = x Sleight of Hand (ได้โบนัสจาก DEX ต้องฝึกถึงใช้ได้) มือไว
1 +0 = +1 Stealth (ได้โบนัสจาก AGI) ซ่อน
0 +0 = x Technology (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) เทคโนฯ
0 +0 = x Treatment (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) ดูแลรักษาบาดแผล
3 +0 = x Vehicles (ได้โบนัสจาก DEX ต้องฝึกถึงใช้ได้) ขับขี่

Advantage = 3 Power Points
1. All-out Attack
2. Power Attack
3. Ultimate Effort: Toughness Check

Powers = 77 Power Points

  1. Armor Form = (77 PP)
    -> Activation: Free Action

    1. Armor Protection
      1. Enhanced Stamina 10 (linked)
        -> +10 STA
      2. Immunity 11 (linked)
        -> Damage Effect: Cold, Damage Effect: Heat, Environmental Condition: Pressure
      3. Impervious Toughness 10 (linked)
        -> Immunity to <= 5 Damage
    2. Super-Strength
      1. Enhanced Lifting: Enhanced Strength 4 (linked)
        -> +4 STR; Limited to Lifting
      2. Enhanced Strength 10 (linked)
        -> +10 STR
    3. Thrusters: Flight 6
      -> Speed: 120 miles/hour, 1800 feet/round

ตัวละครที่ 4.
Character Concept : ทหารรับจ้างฝรั่งเศสคนหนึ่งหลังจากที่ถูกส่งตัวเข้าไปในการรบ เขาได้ค้นพบว่าร่างกายของเขานั้นสามารถที่จะรักษาแผลจากอาการบาดเจ็บต่างๆได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่หมดสัญญากับกลุ่มทหารรับจ้างแล้ว เขาได้เลือกที่ใช้ความสามารถดังกล่าวและผันตัวเองเป็นมือปืนรับจ้างอิสระ
Power Level : 8
Power Points : 120 -30 -15 -19 -14 -42 = 0

ABILITIES = 30 Power Points
2 [STR] Strength กล้าม
3 [STA] Stamina ถึก
2 [AGI] Agility คล่อง
3 [DEX] Dexterity แม่น
2 [FGT] Fighting ต่อสู้
1 [INT] Intellect ปัญญา
1 [AWE] Awareness ไหวพริบ
1 [PRE] Presence บุคลิก

+2 : Initiative [ความเร็วในการเริ่ม Turn]

DEFENSE = 15 Power Points
2 +2 = 4 Dodge [เริ่มต้นเท่ากับ AGI] หลบหลีกโจมตีไกล
2 +5 = 7 Parry [เริ่มต้นเท่ากับ FGT] ป้องกันโจมตีประชิด
3 +4 = 7 Fortitude [เริ่มต้นเท่ากับ STA] สุขภาพต้านพิษโรคภัย
3 = 3 Toughness [เริ่มต้นเท่ากับ STA] รับการโจมตี
1 +4 = 5 Will [เริ่มต้นเท่ากับ AWE] พลังใจกันถูกสะกด

SKILLS = 19 Power Points
2 +1 = +3 
Acrobatics (ได้โบนัสจาก AGI ต้องฝึกถึงใช้ได้) โลดโผน
2 +3 = +5 Athletics (ได้โบนัสจาก STR) กรีฑา
Close Combat (ได้โบนัสจาก FGT) ต่อสู้ระยะประชิด
 2 +5 = +7 Close Combat [Unarmed]
1 +0 = +1 Deception (ได้โบนัสจาก PRE) หลอก
Expertise (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) ชำนาญด้าน(X) (ต้องระบุด้วยว่าด้านไหน)
 1 +0 = x Expertise [-]
1 +4 = +5 Insight (ได้โบนัสจาก AWE) อ่านใจ
1 +5 = +6 Intimidation (ได้โบนัสจาก PRE) ขู่
1 +4 = +5 Investigation (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) สืบ
1 +3 = +4 Perception (ได้โบนัสจาก AWE) ประสาทสัมผัส
1 +0 = +1 Persuasion (ได้โบนัสจาก PRE) ชักจูง
Ranged Combat (ได้โบนัสจาก DEX)ยิงไกล ต้องระบุด้วยว่าอาวุธใด
 3 +9 = +12 Ranged Combat [Gun]
3 +0 = x Sleight of Hand (ได้โบนัสจาก DEX ต้องฝึกถึงใช้ได้) มือไว
2 +4 = +6 Stealth (ได้โบนัสจาก AGI) ซ่อน
1 +0 = x Technology (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) เทคโนฯ
1 +0 = x Treatment (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) ดูแลรักษาบาดแผล
3 +0 = x Vehicles (ได้โบนัสจาก DEX ต้องฝึกถึงใช้ได้) ขับขี่

Advantage = 14 Power Points
1. Diehard
2. Equipment [3]
3. Extraordinary Effort
4. Fearless
5. Improved Aim
6. Improvised Weapon
7. Jack-of-all-trades
8. Precise Attack (Ranged, Concealment)
9. Prone Fighting
10. Quick Draw
11. Takedown
12. Tracking

Powers = 77 Power Points

  1. Don’t need life support: Immunity 2 = (2 PP)
    -> Aging, Starvation & Thirst
  2. Healing Factor: Regeneration 20 = (40 PP)
    -> 2 per round; Persistent
 
Leave a comment

Posted by on April 2, 2016 in Part 05

 

Cosmic Handbook: Book Review

 

001

Cosmic Handbook เป็นหนึ่งในหนังสือเสริมของ เกม Mutants & Masterminds (3rd edition)

Space, the final frontier. These are the voyages of the starship Enterprise.
Its 5-year mission: to explore strange new worlds,
to seek out new life and new civilizations, to boldly go where no man has gone before.

อวกาศดินแดนอันลึกลับกว้างใหญ่เต็มไม่ด้วยความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุดในจักวาลอันไกลโพ้น ไม่ว่าจะเป็น อาณาจักรของสิ่งมีชีวิตต่างดาวอันรุ่งเรือง, จอมทัพกระหายเลือดผู้บดขยี้ดวงดาวต่างๆ, สิ่งมีชีวิตลึกลับเก่าแก่และทรงพลังเกินกว่าจะจินตนาการได้, กองกำลังตำรวจอวกาศผู้คอยรักษาความสงบทั้วทั้งทะเลหมู่ดาวอันเว้งว้าง และอื่นๆอีกมากมายที่รอคอยให้เหล่านักเดินทางผู้กล้าได้พบเจอ

Cosmic Handbook เป็นหนังสือเล่มเสริมตัวล่าสุดของ Mutants & Masterminds(ต่อไปจะเรียนก MnM นะครับ) โดยหนังสือเล่มนี้เป็นส่วนเสริมที่เกี่ยวข้องกับเกมในอวกาศรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตทรงพลังต่างๆ

โดยหนังสือเล่มนี้นั้นได้แบ่งบทต่างๆภายในออกเป็น 5ส่วน คือ

This slideshow requires JavaScript.

  1. Chapter 1: Infinity (& Beyond)
  2. Chapter 2: Cosmic Heroes
  3. Chapter 3: The Cosmic Series
  4. Chapter 4: The Freedom Cosmos
  5. Chapter 5: Freedom City 2525

 

Chapter 1: Infinity (& Beyond)

ในบทแรกนั้นจะเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับประวัติของSuperheroe Comics ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับCosmic ตั้งแต่การถือกำเนิดของ Superman ในยุค 30’s ไปจนถึง Comic ในยุคปัจจุบัน รวมไปถึง Sub-Genre ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการรันเกมที่เกี่ยวข้องกับอวกาศอย่างคร่าวๆ และในท้ายที่สุดของบทที่1 คือ Power Level ในระดับที่สูงกว่าเดิม

Untitled-6

บางที มันก็จะแข็งแกร่งไปนะ

โดยใน MnM เล่มหลักนั้น Power Level สูงสุดคือ PL20(ซึ่งก็สามารถต่อยโลกได้แล้ว) แต่ในเล่มนี้นั้นได้มีการเพิ่มระดับเพดานPower Levelขึ้นไปอย่างมหาศาล กลายเป็นระดับขั้น Power Level X1 ไปจนถึง X5 ซึ่งเป็นพลังในระดับ Cosmic Being ต่างๆ (ใครสงสัยอะไรคือ “Cosmic Being” ลองไปหาคำนี้ใน Google ดูนะ) ตั้งแต่ระดับเทพเจ้าอย่าง Thor Loki Odin Zeus และเทพเจ้าในความเชื่อต่างๆ ไปยันสิ่งมีชีวิตที่เป็นตัวแทนแห่งความตาย,กาลเวลา และสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่ทรงพลังกว่านั้นอีกมากมายจนไปถึงระดับที่สูงเกิดกว่าจะอธิบายตัวอย่างได้ถูก (ใครเล่นไปจนถึงขนาดนั้นได้นี่ก็….. อืม)


Chapter 2: Cosmic Heroes

Untitled-2Untitled-3

ในส่วนของบทที่สองนั้น จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวละครของผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นการปรับพลังบางอย่างให้เข้ากับเกมภายในอวกาศ Skill และ Equipment ใหม่ๆ รวมไปถึงตัวอย่างของ Archetypes ใหม่ๆของตัวละครผู้เล่นที่ได้แรงบัลดาลใจมาจากตัวละครต่างๆในการ์ตูนและภาพยนตร์หลายๆเรื่อง เช่น

  • Cosmic Corsair – Star Lord
  • Cosmic Critter – Rocket Raccoon
  • Space Demigod – Orion
  • Space Soldier – Space Marines

เป็นต้น

นอกจากนั้นแล้วยังมี Alien Templates ซึ่งได้ทำการรวบรวมตัวอย่างของAlienรูปแบบต่างๆมาไว้เป็นTemplateเพื่อใช้ในการสร้าง Raceใหม่ๆภายในเกมได้อีกด้วย

 


Chapter 3: The Cosmic Series

เนื้อหาในบทนี้นั่นส่วนใหญ่จะเป็นตัวอย่าง ศัตรู รูปแบบต่างๆที่สามารถพบเจอได้ทั่วๆไปในเกมที่อยู่ภายในอวกาศพร้อมทั่งนำเสนอPlot Hook ของเนื้อเรื่องที่เหมาะสมกับศัตรูแบบนั้นๆ นอกจากนั้นยังมีส่วนอธิบายถึง Theme และPlotต่างๆเล็กน้อยที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ภายในเกมได้ และสุดท้ายเป็นการปิดท้ายด้วย Minion ชนิดใหม่แบบต่างๆ

 

 


Chapter 4 + 5: The Freedom Cosmos + Freedom City 2525

ในส่วนของบทที่ 4 และ 5 นั้นจะเป็นส่วนขยายเนื้อเรื่องเพิ่มเติมของ Setting หลักของ MnM นั่นเอง

โดยบทที่ 4 นั้นจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่อยู่นอกโลก ไม่ว่าจะเป็น กองกำลังต่างดาวต่างๆ หน่วยงานรักษาความปลอดภัยระดับจักวาล และ NPC ใหม่ๆต่างๆ รวมไปถึงเรื่องราวต่างๆในจักวาลตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน

และในบทที่ 5 นั้น จะเป็นข้อมูลของ Freedom City หรือเมืองที่เป็น Setting หลักของเกมนี้ ในโลกอนาคตปี 2525 โดยในส่วนนี้จะประกอบไปด้วยรูปแบบการเป็นอยู่และการปกครอง รวมไปถึง NPC ใหม่ๆในโลกอนาคตอีกด้วย


 

ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ

หลังจากได้ลองอ่าน Cosmic Handbook ดูแล้วรู้สึกสิ่งที่หนังสือเล่มนี้ให้เพิ่มมานั้นยังจัดว่ามีปริมาณที่น้อยอยู่พอสมควร และสองบทสุดท้ายยังเป็นบทที่มีเพื่ออธิบายส่วนขยาย Setting  หลักของ MnM ซึ่งสำหรับคนที่รันเกมด้วยเนื้อเรื่องของตนเองหรือไม่ได้ใช้ Setting หลักนั้น เนื้อหากว่า 40 หน้าด้านหลังจะเป็นส่วนที่แทบไม่ได้นำไปใช้เลย (เว้นเสียแต่ว่าจะเอาข้อมูลบางส่วนที่เขียนมา นำมาประยุกต์ดัดแปลงใส่เข้ากับเกมของตนเอง)

ในจุดที่คาดว่าจะได้ใช้จริงๆในเล่มนี้นั้น คงจะอยู่ที่ บทที่ 2 และ 3 เสียเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมี Item Gadget และ ไอเดียตัวละครแบบใหม่ๆเยอะพอสมควรให้เลือกใช้

และในจุดสุดท้ายที่จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้คือ Rule เพิ่มเติมในส่วนของ Power Level X ซึ่งโดยส่วนตัวหลังจากได้อ่านดู ผมคิดว่าคงจะหาเกมอะไรบ้าพลังไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วละ เนื่องจากเป็นการเพิ่มระดับเพดานLevelและความสามารถตัวละครให้สูงขึ้นจนอยู่ในระดับที่มหาศาลจนน่าตกใจ

โดยรวมหนังสือเล่มนี้มีข้อมูลน่าสนใจและสามารถใช้เป็นแนวทางไอเดียต่างๆได้พอสมควรแต่ก็มีเนื้อหาบางส่วนที่คิดว่าไม่ค่อยจำเป็นสักเท่าไหร่และไม่ค่อยน่าสนใจในบางจุด ส่วนตัวคิดว่าหนังสือเล่มนี้อยู่ในระดับกลางๆไม่ได้ดีและก็ไม่ได้แย่ เหมาะสำหรับผู้ที่จะนำ MnM ไปรันเกมในระดับ Cosmic และต้องการข้อมูลเพิ่มเติมในระดับหนึ่งรวมถึงแนวคิดคร่าวๆเพื่อเป็นตัวตั้งต้นในการเริ่มเนื้อเรื่องต่างๆ

giphy.gif

 
Leave a comment

Posted by on February 20, 2016 in Book

 

Power Profiles: Book Review

Untitled-1

หน้าปกที่เต็มไปด้วยพลัง

Power Profiles เป็นหนึ่งในหนังสือเสริมของ เกม Mutants & Masterminds (3rd edition)

ใน Mutants & Mastermindนั้นผู้เล่นจะสามารถสร้างหรือคิดพลังและความสามารถต่างๆของตัวละครขึ้นมาเองได้ โดยใช้ระบบการสร้างพลัง ที่มีมากับตัวหนังสือเล่มหลัก แต่ด้วยความที่การผสม Effect หรือความสามารถต่างๆขึ้นมานั้นมีความซับซ้อนอยู่พอสมควร อีกทั้งยังมีการบวกลบค่าตัวเลขของPointsที่ผู้เล่นจะต้องใช้ในการเพิ่มRankของพลังที่สร้างออกมาอีก และนอกจากนั้นการผสมEffectในหมวดPowers ของหนังสือเล่มหลักนั้นแทบจะไม่มีตัวอย่างใดๆให้เลยว่าพลังที่ผู้เล่นต้องการควรจะสร้างขึ้นมาอย่างไร ทำให้เกิดปัญหากับผู้เล่นหน้าใหม่ที่ยังไม่เชี่ยวชาญกับการสร้างตัวละครด้วยระบบนี้อยู่พอสมควร

ซึ่งด้วยความยุ่งยากเหล่านี้ก็จะทำให้เกิดคำถามซ้ำๆซากๆกับเหล่าGM จากกลุ่มผู้เล่นหน้าใหม่เช่น

  • “GMครับผมอยากให้ตัวผมแปลงร่างเป็นไฟแล้วบินได้ ผมต้องทำยังไงครับ”
  • “GMครับผมอยากควบคุมแรงดึงดูดได้ผมจะทำยังไงดีครับ”
  • “GMครับผมอยากแยกร่างได้ผมจะทำยังไงครับ”
  • “GMผมอยากหยุดเวลาได้”
  • GMครับผมอยากฟังเสียงแล้วรู้ตำแหน่งสิ่งต่างๆแบบDaredevil”
  • GMครับผมอยากทำนั่นได้ ผมอยากทำนี่ได้ และคำถามแนวเดียวกันอื่นๆอีกมากมาย

ซึ่งตัวหนังสือ Power Profiles นั้นเป็นหนังสือเสริมที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยหนังสือเล่มนี้นั้นได้ทำการรวบรวมพลังและความสามารถต่างๆที่สร้างเสร็จแล้วและพร้อมนำไปให้ผู้เล่นใช้งานอยู่มากมาย ทำให้ผู้เล่นใหม่สามารถสร้างตัวละครต่างๆได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถช่วยเป็นแนวคิดหรือไอเดียในการสร้างตัวละครหรือNPC ให้แก่เหล่าผู้เล่นที่ชำนาญแล้วรวมไปถึงเหล่าGM อีกด้วย

โดยตัวหนังสือนั้นจะแบ่งออกเป็น 39หมวดพลัง ซึ่งจะถูกแบ่งออกมาดังต่อไปนี้

This slideshow requires JavaScript.

  • Air Powers = พลังที่เกี่ยวข้องกับการใช้และควบคุมลม
  • Armor Powers = ชุดเกราะอันทรงพลังพร้อมฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ
  • Animal Powers = การใช้พลังหรือความสามารถต่างๆของสัตว์ รวมไปถึงการแปลงร่างแปลงร่างและเรียกใช้สัตว์ด้วย
  • Cold Powers = ความสามารถในการควบคุมและใช้ความเย็น
  • Cosmic Powers = การใช้และควบคุมพลังคอสมิค
  • Darkness Powers = พลังในการควบคุมความมืดและเงา
  • Death Powers = พลังที่เกี่ยวข้องกับความตาย
  • Dimension Powers = พลังในการควบคุมหรือใช้งานมิติต่างๆ
  • Dream Powers = พลังในการควบคุมหรือท่องไปในความฝัน
  • Earth Powers = ความสามารถในการควบคุมพื้นโลกรวมไปถึงหินต่างๆ
  • Electrical Powers = ความสามารถในการควบคุมและใช้พลังงานไฟฟ้า
  • Element Powers = พลังในการควบคุมธาตุและสสารต่างๆ
  • Fire Powers = ความสามารถในการใช้งานและควบคุมไฟ
  • Gravity Powers = พลังในการควบคุมแรงดึงดูด
  • Illusion Powers = ความสามารถในการสร้างภาพลวงตาหรือมายาต่างๆ
  • Kinetic Powers = ความสามารถที่เกี่ยวกับการควบคุมแรงและแรงเสียเทานต่างๆในการเคลื่อนไหว
  • Life Powers = พลังที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของสิ่งต่างๆ
  • Light Powers = ความสามารถในการใช้งานหรือควบคุมแสง
  • Luck Powers = พลังที่ทำให้ตัวละครโชคดี หรือผู้อื่นโชคร้าย
  • Magic Powers = เวทย์มนต์คาถาต่างๆมากมาย
  • Magnetic Powers = พลังในการควมคุมสนามแม่เหล็ก
  • Martial Powers = ทักษะการต่อสู้ต่างๆ
  • Mental Powers = พลังและความสามารถที่เกี่ยวข้องกับด้านจิตและความคิด
  • Meta Powers = ความสามารถอื่นๆนอกเหนือจากหมวดที่เหลือ เช่นการCopyพลังและความสามารถของผู้อื่น เป็นต้น
  • Morphing Powers = ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของร่างกาย
  • Plant Powers = พลังในการสื่อสารควบคุมและเรียกใช้งานพืชต่างๆ
  • Radiation Powers = พลังที่เกี่ยวข้องกับรังสีและพลังงานนิวเคลียร์
  • Sensory Powers = ความสามารถด้านประสาทสัมผัสต่างๆ
  • Size Powers = ความสามารถในการควบคุมเพิ่มลดของขนาดร่างกายและสิ่งต่างๆ
  • Sonic Powers = พลังที่เกี่ยวข้องกับเสียงและคลื่นเสียง
  • Speed Powers = พลังต่างๆที่เกี่ยวข้องกับความเร็ว
  • Strength Powers = ความสามารถหรือวิธีการใช้งานพละกำลังมหาศาลแบบต่างๆ
  • Summoning Powers = ความสามารถในการเรียกหรือเสกสิ่งต่างๆมาช่วยเหลือและใช้งาน
  • Talent Powers = ความสามารถพิเศษต่างๆทั้งด้านร่างกายและความรู้
  • Tech Powers = พลังในการควบคุมเทคโนโลยีต่างๆ
  • Teleport Powers = ความสามารถต่างๆที่เกี่ยวกับการTeleport
  • Time Powers = ความสามารถในการควบคุมเวลา
  • Water Powers = พลังในการควบคุมน้ำ
  • Weather Powers = ความสามารถในการควบคุมสภาพอากาศ

โดยในแต่ละหมวดหมู่หรือหัวข้อต่างๆข้างต้นนั้นจะแบ่งออกเป็นส่วนย่อยๆเหมือนๆกันคือ

  1. คำอธิบายของความสามารถนั้นๆ
  2. ผลของความสามารถนั้นๆโดยรวม
  3. ความสามารถเล็กๆน้อยๆที่อาจมีได้จากความสามารถด้านนี้
  4. พลังที่เกี่ยวข้องกับการจู่โจม
  5. พลังที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน
  6. พลังที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนที่
  7. พลังอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนั้น
  8. พลังในหัวข้ออื่นๆที่อาจจะนำมาประยุกต์ใช้กับหัวข้อนี้ได้
  9. ปัญหาหรือความยุ่งยากต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นจากพลังเหล่านี้
พลังและความสามารถมากมายในหนังสือให้เลือกใช้

พลังและความสามารถมากมายในหนังสือให้เลือกใช้

ซึ่งพวกพลังต่างๆที่หนังสือเล่มนี้รวบรวมมานั้นจะมีส่วนของคำอธิบายว่าพลังนี้สามารถใช้ทำอะไรได้และในส่วนของ Effect ที่บอกถึงการทำงานของพลังนี้ในทางด้านGame Mechanic และมีการบอกปิดท้ายว่า พลังหรือความสามารถนี้ ใช Points เท่าไหร่ต่อRank

นอกจากนี้ตัวหนังสือยังมีหัวข้อย่อยๆที่เรียกว่าBy-Design คอยแทรกอยู่เป็นระยะๆ โดยในส่วนของBy-Designนั้นจะเป็นส่วนที่มีคำแนะนำต่างๆในการออกแบบพลังและความสามารถให้ผู้เล่นหรือGMได้นำไปอ่าน

ส่วนตัวหนังสือโดยรวมนั้น เป็นหนังสือปกแข็งจำนวนสองร้อยกว่าหน้า โดยแต่ละหมวดจะมีภาพอยู่ประมาณหนึ่งรูปเป็นภาพเปิดหัวข้อขนาดประมาณครึ่งหน้ากระดาษ โดยจะเป็นภาพที่เกี่ยวข้องกับพลังในหัวข้อนั้นๆ ทำให้ตัวหนังสือนั้นเป็นหนังสือที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหาตันๆขนาดสองร้อยหน้า

หน้ากระดาษที่อัดแน่นไปด้วยพลัง //จริงๆ

หน้ากระดาษที่อัดแน่นไปด้วยพลัง //จริงๆ


ความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ

ตัวเล่มPower Profiles สามารถช่วยเหลือผู้เล่นหน้าใหม่ได้พอสมควรเลยทีเดียวในการเลือกหรือใช้พลังต่างๆ เหมือนคุณมีเพื่อนตัวน้อยคอยช่วยเหลือคุณอยู่
เช่นแทนที่ผู้เล่นกับGMจะต้องมานั่งปวดหัวกันว่าต้องผสมEffectยังไงแล้วใช้Pointsเท่าไหร่ ถึงจะทำให้ตัวละครสามารถหยุดเวลาได้
ผู้เล่นก็จะหยิบหนังสือPower Profilesขึ้นมาแล้วเปิดไปที่หมวดTime และค้นหาพลังที่ไกล้เคียงกับที่ตัวเองต้องการ ทำให้รู้ว่า พลังTime Stopนั้น ใช้ 2Points ต่อRank และเริ่มหยุดเวลาได้มากที่สุดในRank1 คือ12วินาที โดยเวลาที่หยุดได้จะเพิ่มขึ้นแบบคูณสองทุกๆRank ทำให้ผู้เล่นสามารถเลือกRankที่ต้องการได้และสามารถคิด Pointsที่จะใช้ได้อย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่ถึงสองนาที
ในขณะที่การมานั่งคิดหาวิธีสร้างพลังที่ทำให้หยุดเวลาได้กันเองนั้น อาจจะใช้เวลาถึงครึ่งชั่วโมงหรือหลายชั่วโมงเลยทีเดียวในการที่จะมานั่งทำพลังนี้เอง
นอกจากนั้นแล้วพลังต่างๆในเล่มนี้นั้นยังสามารถช่วยเป็นแนวคิดให้กับผู้เล่นหรือGMที่ต้องการสร้างตัวละคร แต่หัวยังตันๆไม่สามารถไอเดียได้ด้วย เพียงแค่หยิบหนังสือมานั่งเปิดอ่านเล่นๆคุณก็อาจจะได้ความคิดแปลกๆในการสร้างตัวละครขึ้นได้
แต่สำหรับคนที่ต้องการจะซื้อหนังสือที่มีArtสวยๆก็คงจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่เพราะตัวหนังนั้นมีรูปน้อยมาก ตกอยู่ที่หนึ่งรูปต่อหนึ่งหัวข้อ จะมีแค่สองถึงสามหัวข้อที่มีประมาณสองรูป
ส่วนระดับพลังในหนังสือเล่มนี้ก็มีตั้งแต่ยิงลูกไฟได้ไปยันพลังระดับเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงได้เลยทีเดียว

โดยรวมแล้วตัวหนังสือ Power Profiles ก็เหมือนกับการไปร้านอาหารที่ผู้เล่นสามารถหยิบเมนูขึ้นมา เลือกสิ่งที่ชอบดูราคา แล้วจับจ่ายได้ตามสะดวกโดยไม่ต้องมานั่งปรุงเองนั่นเอง

เหมือนนั่งสั่งอาหารอย่างสบายใจในร้านอาหาร

เหมือนนั่งสั่งอาหารอย่างสบายใจในร้านอาหาร

 
1 Comment

Posted by on November 23, 2015 in Book

 

Imageria

001
การ Breakout นั้นนอกจากจะทำให้เหล่ามนุษย์ธรรมดาได้รับพลังเหนือมนุษย์และกลายเป็นParagonsแล้วนั้น มันยังเป็นการเปิดประตูไปสู่โลกแห่งใหม่ หรืออาจจะเป็นดินแดนที่คลอบคลุมโลกอยู่หลายโลกภายในนั้น สถานที่ซึ่งจินตนาการก่อกำเนิดเป็นรูปร่างขึ้น ดินแดนแห่งจินตนาการตำนานและความไปได้ต่างๆ Imageria

ถ้าจะว่ากันตามเข้าใจ Imageria คือ ห้วงมิติอีกมิติหนึ่งซึ่งได้รวบรวม จินตนาการ ความคิด เรื่องเล่า นิทาน ตำนานต่างๆ ทั้งหมดของมนุษย์ไว้ภายใน ว่ากันว่าทุกๆความคิดและจินตนาการทั้งหมดของมนุษย์ทุกๆคนนั้นได้ก่อเกิดรูปร่างและมีตัวตนอยู่สักแห่งหนึ่งภายในImageria, และยิ่งมีความเห็นร่วมกันของมนุษย์เกี่ยวกับสิ่งนั้นเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งและทรงพลังของสิ่งนั้นภายในImageria ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น
ว่ากันว่าImageriaนั้นเป็นดินแดนที่ไร้ขอบเขตเสมือนกับจินตนาการของมนุษย์ แต่ถึงอย่างนั้นภายในImageriaก็ยังถูกแบ่งออกเป็นเขตแดนต่างๆมากมายภายในนั้น และจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าภายในห้วงลึกที่สุดหรือแม้กระทั่งสุดขอบเขตของImageriaเป็นอย่างไร เนื่องจากว่ายังไม่เคยมีใครที่เข้าไปยังส่วนลึกที่สุดของImageriaสำเร็จและรอดกลับออกมาได้อีกเลย

001

Entering and Leaving
การเข้าและออก

ในการเดินทางเข้าไปยัง Imageria นั้นมีวิธีการหลักๆอยู่สองอย่างคือ: ด้านกายภาพ(เข้าไปทั้งตัวเลย) และเข้าไปทางจิต(ส่งจิต หรือวิญญาณเข้าไป)
ผู้ที่เข้าไปยังImageriaด้วยจิตของตนนั้น สภาพร่างกาอยู่ในรูปแบบเสมือนการหลับลึก และจิตที่ถูกส่งเข้าไปจะก่อรูปร่างขึ้นมามีร่างกายภายในImageria ร่างกายที่ก่อตัวขึ้นในImageriaนั้นจะมีสภาพเสมือนกับร่างกายของจริงและสามารถมีปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพต่างๆกับทุกสิ่งในImageria หรือแม้กระทั่งการถูกทำร้ายก็ตาม เสมือนกับการนำร่างกายของตนเองเข้าไปอยู่ในนั้น และนอกจากนั้นหากร่างจิตที่อยู่ภายในนั้นได้รับอันตรายใดๆสิ่งนั้นก็จะเกิดขึ้นกับร่างกายจริงๆเช่นกันและหากร่างจิตที่เข้าไปภายในImageriaตายลงนั้น ก็จะทำให้กายที่ยังอยู่บนโลกมนุษย์ตายลงด้วยเช่นกัน และเมื่อร่างจิตสามารถกลับออกมาจากImageriaได้ จิตนั้นจะกลับเข้าสู่ร่างกายตามปกติ ณ สถานที่ๆร่างนั้นอยู่แม้ว่าร่างกายนั้นจะถูกขยับไปที่ใดก็ตาม และหากร่างกายที่อยู่ในโลกมนุษย์ถูกทำลายลงดวงจิตที่ยังอยู่ในImageriaก็จะติดอยู่ในนั้นไปตลอดกาล หรือจนกว่าจะหาร่างกายใหม่ให้ตนเองได้
การเดินทางเข้าไปยังImageriaด้วยร่างกายของตนเอง(เข้าไปทั้งตัวเลย) จะทำให้ผู้ที่เดินทางเข้าไปไม่มีสิ่งเชื่อโยงตนเองระหว่างโลกมนุษย์และImageria ทำให้เมื่อเดินทางกลับออกมา มีความเป็นไปได้ว่าสถานที่ ที่กลับออกมานั้นจะเป็นคนละสถานที่บนโลกมนุษย์กับสถานที่ๆได้เดินทางเข้าไปยัง Imageria
ตามปกติการเดินทางเข้าไปยัง Imageria นั้นส่วนใหญ่จะเป็นการเข้าไปทางจิต เนื่องจาก การที่จะสามารถเข้าไปในImageriaด้วยร่างกายนั้น จำเป็นที่จะต้องหารอยแตกระหว่างมิติทั้งสองให้เจอและทำการเดินเข้าไป อีกทั้งการเข้าไปยังImageriaด้วยร่างกายของตนนั้นยังเสี่ยงกับการที่จะหาทางออกกลับมาไม่ได้อีกด้วย

ในการกลับออกมาจาก Imageria นั้นผู้ที่เดินทางเข้าไปภายในนั้นสามารถกลับออกมาได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับรูปแบบที่ใช้ในการเดินทางเข้าไป โดยหากเปิดการเดินทางเข้าไปด้วยจิตเพียงแค่เดินทางกลับมายังตำแหน่งที่ผู้นั้นเข้ามาในImageriaและตั้งจิตถึงร่างกายตนเองบนโลกมนุษย์ก็จะสามารถกลับออกมาได้ นั่นหมายความว่ายิ่งคุณเดินทางเข้าไปในImageriaลึกเพียงใดการเดินทางกลับออกมาก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้นและคุณยังเสี่ยงกับการที่จะหลงทางอยู่ในนั้นอีกด้วย
ส่วนการเดินทางกลับมาทางกายภาพนั้นก็เหมือนกับวิธีที่ใช้เดินทางเข้ามา คือหาจุดที่รอยต่อระหว่างโลกมนุษย์และ Imageria เปราะบางหรือแตกออกและทำการก้าวผ่านรอยแยกมิติกลับออกมา แต่จากที่กล่าวไปข้างต้นว่าการออกมาด้วยวิธีนี้นั้นอาจจะทำให้ไปโผล่ยังจุดอื่นบนโลกมนุษย์ได้ เนื่องจากรอยแยกระหว่างมิติเป็นคนละจุดกัน

Imageria Shaping
พื้นที่อ่อนไหวทางจินตนาการ

บางพื้นที่ใน Imageria นั้นเป็นพื้นที่ๆมีความอ่านไหวต่อจินตนาการเป็นพิเศษ ในพื้นที่รูปแบบนี้นั้นผู้ที่เดินทางเข้าไปในนั้นสามารถที่ใช้พลังจินตนาการของตนเองในการ สร้าง หรือ เปลี่ยนแปลง สิ่งต่างๆในพื้นที่นั้นได้.

Imagerial Environments
สภาพภูมิประเทศของ Imageria

สภาพภูมิประเทศเกือบทุกประเภทบนโลกมนุษย์ หรือแม่กระทั่งภูมิประเทศในจินตนาการต่างๆสามารถถูกพบได้ใน Imageria ทั้งพื้นที่ๆเอื้อประโยชน์แก่การเดินทางและสถานที่อันตรายต่างๆ

002

หากจะให้ทำการอธิบายถึงสภาพภูมิศาสตร์ภายใน Imageria นั้น ก็คงจะอธิบายได้ว่า Imageria นั้นได้ถูกแบ่งออกเป็นชั้นๆ หลายหลายชั้น
ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็ขอให้ลองนึกถึง ภูเขาสูงเสียดท้องฟ้าที่ตั้งอยู่ ณ เกาะกลางทะเล เมือคุณยืนอยู่บนยอดเขาที่พุ่งเสียดฟ้าขึ้นเหนือหมู่เมฆ คุณจะสามารถมองเห็นยอดเขาจากเกาะข้างๆที่อยู่เหนือเมฆขึ้นมาด้วยกัน ยอดเขาเหล่านั้นเปรียบเสมือนกับมนุษย์ทั่วไป และพื้นที่ๆโผล่พ้นเมฆออกมานั้นก็เปรียบเสมือนกับโลกมนุษย์ที่ทุกคนอาศัยอยู่ ไม่สามารถที่จะมองผ่านหมู่เมฆลงไปยังเบื้องล่างหรือรับรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใต้
เมื่อเริ่มเดินทางจากยอดเขาลงมาภายในหมู่เมฆ ณ ตอนนี้ก็เสมือนกับคุณอยู่ในชั้นแรกของ Imageria หรือที่เรียกว่า “The Border” ซึ่งเป็นสถานที่ๆยังมีบางส่วนเชื่อมโยงกับโลกมนุษย์อยู่ แต่ยิ่งคุณเดินลึกเข้าไป คุณก็ยิ่งไกลออกไปจากโลกมนุษย์เรื่อยๆเหมือนกับหมู่เมฆมาปกคลุมยอดเขาจนหมดตัดขาดจากโลกแห่งความเป็นจริงและมุ่งหน้าเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการ
เมื่อคุณเดินลงจากเนินเขามาถึงพื้นผิวของเกาะ ล้อมรอบไว้ด้วยน้ำทะเล เกาะนั้นเปรียบเสมือนกับชั้นที่สองของ Imageria ที่เรียกว่า “The Reaches” ณ ดินแดนที่แทบจะตัดขาดจากโลกเหนือหมู่เมฆแต่ก็ยังได้รับผลกระทบจากสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นด้านบน
และเมื่อคุณเดินลงมาต่อเรื่อยๆจนถึงหาดทรายและลึกลงไปยังห้วงมหาสมุทร ณ ชั้นที่สามของImageria “The Depths”
และเมื่อคุณดำดิ่งลงไปลึกขึ้นในห้วงมหาสมุทร ณที่ๆมีแต่ความมืดและแสงอาทิตย์ไม่สามารถส่องถึงได้ หรือชั้นที่สี่ของImageria “The Abyss” เสมือนห้วงเหวที่ลึกและมืดสนิท
และสุดท้ายเมื่อคุณได้เดินทางลงไปถึงก้นมหาสมุทร ณที่ๆทุกสิงกลับมาบรรจบรวมกันหรือ “The Deep Beyond” ห้วงลึกสุดของ Imageria สถานที่ที่ทุกจินตนาการและความคิดมาบรรจบรวมกันที่ๆยังไม่เคยมีใครได้เข้าไปและกลับออกมาได้

ถ้าจะให้เปรียบเทียบชั้นคร่าวๆของ Imageria ก็คงจะได้ประมาณนี้

The Border

The Border คือพื้นที่ส่วนที่เชื่อมโยงระหว่างโลกมนุษย์และImageria เป็นเสมือนพื้นที่ๆคาบเกี่ยวและทับซ้อนอยู่ระหว่างสองโลก เป็นจุดเชื่อมทำให้สามารถเดินทางไปมาระหว่างทั้งสองโลกได้
ภายใน The Border นั้นคุณจะยังสามารถมองเห็นบางส่วนของโลกมนุษย์ได้จางๆเสมือนมีหมอกมาปกคลุมโลก ในขณะที่สิ่งต่างๆภายใน The Border ไม่สามารถมองเห็นหรือตรวจจับได้จากทั้งฝั่งโลกมนุษย์
สิ่งมีชีวิตภายใน Border นั้นเป็นสิ่งที่เหมือนกับวิญญาณของโลกมนุษย์ และไม่สามารถมองเห็นได้ ส่วนใหญ่สามารถเคลื่อนที่ไปได้ในทุกทิศทางและสามารถเคลื่อนที่ผ่านสิ่งต่างๆได้เหมือนไม่มีอะไรขวางกั้น

  • Shallows
    ในบางบริเวณของ Border นั้นเส้นกั้นระหว่างโลกมนุษย์และ Imageria จะมีความบางเป็นพิเศษ ทำให้สิ่งต่างๆในโลกมนุษย์สามารถที่จะ ลอด เข้าไปใน Border ได้ เราเรียกพื้นที่เหล่านั้นว่า Shallow
  • Prominences
    ในขณะที่ Shallows เป็นสถานที่ๆ โลกมนุษย์และ Imageria ซ้อนทับกัน Prominences คือสถานที่ ที่บางส่วนของImageria ได้ลุกล้ำเข้ามาในโลกมนุษย์เช่น เกาะประหลาดผุดขึ้นมากลางมหาสมุทร บ้านลึกลับที่โผล่ขึ้นมากลางที่โล่งในชั่วข้ามคืน เป็นต้น
    Promineces ส่วนใหญ่นั้น จะปรากฏขึ้นและหายไปในช่วงเวลาหนึ่ง (อาจจะชั่วโมง วัน หรือแม้กระทั่งนาที)

The Reaches

หลังจากผ่าน The Border มาสิ่งที่รอคุณอยู่คือ The Reaches ดินแดนชั้นแรกของImageria ที่ตัดขาดจากโลกมนุษย์อย่างสิ้นเชิง ในดินแดนแห่งนี้คือสถานที่ ที่ความคิดและจินตนาการตำนานต่างๆ กลับมามีชีวิต
การเดินทางไปยัง The Reaches นั้นคือการเดินทางเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆภายใน Border มุ่งหน้าออกห่างจากโลกทางกายภาพเข้าสู่กลุ่มหมอกที่หนาขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อคุณเดินทางต่อไปจนกระทั่งกลุ่มหมอกเหล่านั้นหายไป คุณก็จะพบตนเองอยู่กลางดินแดนแห่งจินตนาการอันสุดลูกหูลูกตาที่เรียกว่า The Reaches

Places in the Reaches
The Reaches นั้นประกอบไปด้วย สถานที่ ต่างๆมากมายและยังถูกแบ่งออกเป็นเขตแดนต่างๆดังนี้อีกด้วย

  • The Elemental Realms
    สิ่งที่ใช้ในการบอกทิศทางต่างๆเป็นเสมือนเข็มทิศของ The Reaches คือดินแดนแห่งธาตุทั้งสี่ ประกอบไปด้วย ดิน, น้ำ, ลม, และไฟ โดยดินแดนแห่งดินนั้นตั้งอยู่ติดกับ Border ซึ่งอยู่ไกล้โลกมนุษย์ที่สุด และมีดินแดนแห่งน้ำอยู่ฝั่งตรงข้ามดิดกับ The Depths ในขณะที่มีดินแดนแห่งลม และ ไฟ อยู่ทางด้านซ้ายและขวาขั้นกลางระหว่างดินแดนแห่งดิน และ น้ำ
  • Faerie
    ในดินแดนแห่งดินนั้น มีป่าขนาดใหญ่และดูไร้ที่สิ้นสุดตั้งอยู่ ซึ่งป่าแห่งนี้เป็นดินแดนของเหล่าสิ่งมีชีวิตในตำนานต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่โหดร้ายป่าเถื่อน หรือเป็นมิตรและน่ารัก และในป่านี้ยังมีการแบ่งเขตแดนออกเป็นส่วนต่างๆ มีกษัตริย์ ราชิณี รวมถึงเหล่าผู้ปกครองต่างๆครอบครองอยู่.

    This slideshow requires JavaScript.

  • The City of Brass
    ตั้งตระหง่านอยู่ณใจกลางของดินแดนแห่งไฟคือนครทองเหลืองในตำนาน ปกครองโดยสุลต่านแห่งเหล่า Ifrit ภูเขาที่ล้อมรอบเมืองแห่งนั้นเต็มไปด้วยเหล่าคนแคระผู้ชำนาญการช่าง และมังกรที่อาศัยอยู่ลึกลงไปในรังภายในหุบเขารอบๆ รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่และอันตรายกว่ามังกรมากนัก ณใจกลางของเมืองคือตลาดขนาดใหญ่ “The Bazaar of The Bizarre” ที่เต็มไปด้วยสิ่งของมหัศจรรย์ต่างๆภายในImageria

    This slideshow requires JavaScript.

  • The Citadel of the Four Winds
    ณ ยอดเขาที่สูงที่สุดในดินแดนแห่งลมคือที่ตั้งของป้อมปราการแห่งลมทั้งสี่ทิศ ที่ซึ่งมีหน่วยเฝ้าระวังภัยและกองทัพอันแข็งแกร่ง ผู้ที่เดินทางไปยังยังป้อมปราการแห่งนี้และสามารถตอบคำถามของผู้ดูแลป้อมปราการได้ จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าไปภายในห้องสมุดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหนังสือและความรู้ต่างๆมากมายภายใต้หุบเขาของป้อมปราการ ซึ่งว่ากันว่ารวบรวมหนังสือและข้อมูลความรู้ทุกๆอย่างที่เคยเกิดขึ้นไว้ภายในนั้น นอกจากนั้นผู้ที่ตอบคำถามได้ยังได้รับอนุญาตให้สามารถใช้กริฟฟินของป้อมปราการในการโดยสารไปยังที่ต่างๆภายในดินแดนแห่งลมอีกด้วย
  • Atlantis
    ติดกับชายฝั่งของดินแดนแห่งน้ำ คือที่ตั้งของมหานครแอตแลนติส ที่ปกครองโดยกษัตริย์นักปราชญ์ผู้ชาญฉลาด เมืองแห่งนี้เป็นเสมือนสถานที่ในการท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่เปิดประตูต้อนรับทุกสิ่งมีชีวิตใน Imageria(ยกเว้นพวกที่สร้างปัญหาให้) ตลาดใหญ่ริมท่าเรือของที่นั้นเต็มไปด้วยสิ่งต่างๆมากมายยิ่งกว่าBazaarของนครทองเหลือ เหล่านักเดินทางต่างๆสามารถหาเรือเพื่อเดินทางผ่านดินแดนแห่งน้ำได้ หรือแม้กระทั่งหายานพาหนะในการเดินทางลงไปใต้ผืนน้ำไปยังดินแดนแห่งแอตแลนติสใต้น้ำที่เต็มไปด้วยเหล่าเงือกและสิ่งมีชีวิตใต้น้ำต่างๆ รวมถึงทางใต้น้ำซึ่งทำทางไปยัง The Depths อีกด้วย

The Depths

The Depth คือส่วนที่ลึกเข้าไปภายใน The Reaches ที่ๆสิ่งต่างๆภายในนั้นมีความดิบกว่าป่าเถื่อนกว่า และจินตนาการต่างๆมีความเป็นเอกลักษณ์มากกว่าThe Reaches, The Depths เป็นสถานที่อยู่อาศัยของความฝันต่างๆของเหล่ามนุษย์ เทพ หรือบุคคลในตำนาน และฝันร้ายต่างๆของมนุษย์

Places in the Depths
เหมือนกับ the Reaches, the Depths นั้นประกอบไปด้วยสถานที่ต่างๆมากมายซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางต่างๆซึ่งเปลี่ยนไปตลอด แต่ว่าthe Depths นั้นปราศจากเข็มทิศหรือสิ่งต่างๆที่ใช้ในการบอกทิศทาง สิ่งที่พอจะช่วยในการกำหนดเส้นทางได้ก็มีเพียงแต่ ชายฝั่งทะเลซึ่งเป็นเขตแดนกั้นระหว่างthe Reachesในด้านหนึ่ง และขอบเหวอันดำมืดที่มุ่งหน้าสู่the Abyss ในอีกฟากหนึ่ง การเดินทางออกนอกจุดหมายทั้งสองอย่างนี้อาจนำทางเหล่านักเดินทางต่างๆเข้าสู่เส้นทางอันไร้จุดหมายและไม่สามารถหาทางกลับออกมาอีกเลยได้

  • Dream Realms
    The Depths นั้นเป็นดินแดนแห่งความฝันและจินตนาการ หลายๆสถานที่เหมือนกับถูกดึงออกมาจากความฝันหรือฝันร้ายต่างๆ Dream Realms นั้นมีอยู่หลายแห่งภายในthe Depths และมีขนาดที่แตกต่างกันตั้งแต่ ตู้เสื้อผ้าเล็กๆในความมึดที่มีความกลัวของเด็กๆสิ่งสู่อยู่ด้านใน ไปจนถึงกาแล็กซี่ขนาดใหญ่ที่มีทั้งดาวเคราะห์และดวงดาวอื่นๆรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตมากมายภายในนั้น หรือแม้กระทั่งโลกที่ดูคล้ายคลึงกับโลกเรา หรือดินแดนในเวทย์มนต์ในจินตนาการจากนิทานและนิยายต่างๆ

    This slideshow requires JavaScript.

  • The Eternal Battlefield
    ไกล้กับขอบเหวของthe Abyss คือกองทัพและทหารมากมายทีกำลังทำการต่อสู้กันในสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุด บางกลุ่มดูคล้ายกับนักรบในยุกกลางภายใต้ชุดเกราะโลหะ, ดาบ, และหอก ในบางครั้งก็เป็นกลุ่มคนที่แต่งกายและมีอาวุธคล้ายกับทหารในช่วงสงครามโลก หรือแม้กระทั่งกองทัพอันทันสมัยกำลังต่อสู้กับกองทัพต่างดาวขนาดใหญ่ ในบางครั้งยังมีรายงานจากเหล่านักเดินทางว่าเห็นกองทัพเหล่านี้ร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับอสูรร้ายที่ขึ้นมากจาก the Abyss อีกด้วย
  • The Elysian Fields
    สถานที่อันสวยงามเป็นเนินเขาทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยพืชพรรณและดอกไม้แสนสวยงามทอดยาวออกไปไกลสุดสายตา เต็มไปด้วยเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ที่ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบและไม่เป็นอันตรายต่อเหล่าผู้ที่เดินทางผ่านมา นอกจากนั้นเหล่านักเดินทางที่ผ่านมายังพบเห็นผู้คนต่างๆมากมายอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นเหล่าคนรักหรือคนรู้จักที่ตายจาก บุคคลอันมีชื่อเสียงต่างๆในโลกมนุษย์ทำให้มีเหล่านักเดินทางหลายคนพยายามที่จะมายังสถานที่แห่งนี้เพื่อที่จะได้พบกับบุคคลอันเป็นที่รักอีกครั้ง หรือแม้กระทั่งมาเพื่อค้นหาความรู้หรือข้อมูลต่างๆจากบุคคลในสถานที่เหล่านี้
  • Godshome
    ยอดเขาโอลิมปัส, แอสการ์ด, และเหล่าสถานที่อันเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าเทพเจ้าในตำนานต่างๆของโลกสามารถพบได้ในสถานที่ต่างๆภายในthe Depth ที่ๆซึ่งเหล่านักเดินทางสามารถร่วมดื่มฉลองในห้องโถงของโอดิน, ออกล่าสัตว์กับเทพีอาร์เทมิส เหล่าผู้ที่เดินทางเข้าไปยังImageriaกล่าวอีกว่าถึงแม้จะมีการพบเห็นเหล่าเทพในตำนานต่างๆและเหล่าเทวดาบนสรวงสวรรค์แต่กลับไม่มีรายงานใดเคยพบเห็น พระเจ้าเพียงหนึ่งเดียว ของศาสนาในความเชื่อปัจจุบันเลย จนเกิดแนวคิดจากคนบางกลุ่มว่าพระเจ้าในรูปแบบนั้นอาจจะมีตัวตนอยู่ณส่วนลึกสุดซักแห่งภายในthe Deep Beyond ก็เป็นได้

The Abyss

ระหว่าง the Depths และ Deep Beyond นั้นถูกขั้นกลางด้วยThe Abyss ซึ่งดูคล้ายกับหุบเหวลึกอันดำมืดยาวลงไปเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ภายใต้หุบเหวลึกของAbyss นั้นเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตต่างๆมากมายอาศัยอยู่ตามรอยแตกและรอยแยกของหน้าผาไม่ว่าจะเป็นอสรพิษร้ายที่มีขนาดใหญ่โตเหมือนจะสามารถเลื้อยมาพันรอบโลกได้, มังกรร้ายขนาดใหญ่โต, หรือแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวและน่าสยดสยองเกินกว่าที่จะสามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ไม่ว่าอสูรร้ายเหล่านี้จะเป็นอะไรก็ตามพวกมันได้ทำการรอคอยและดักซุ่มจู่โจมและกลืนกินเหล่านักเดินทางผู้ที่เหยียบย่างเข้าไปยังดินแดนของพวกมัน

This slideshow requires JavaScript.

The Deep Beyond

ณ ฝั่งตรงข้ามของ the Abyss นั้นคือ the Deep Beyond สถานที่อันเป็นปริศนาและยังไม่สามารถหาคำตอบหรือคำอธิบายเกี่ยวกับสถานที่นี้ได้ บ้างอ้างว่ามันเป็นสถานที่ ที่เป็นที่อยู่ของพระผู้เป็นเจ้า บ้างว่ามันจะช่วยไขความลับไปสู่ทุกสิ่งในจักวาล บ้างว่ามันจะเป็นหนทางไปสู่นิพพาน บ้างว่ามันก็เป็นเพียงอีกชั้นหนึ่งของImageria แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถล่วงรู้ความจริงของthe Deep Beyond เนื่องจากว่ายังไม่เคยมีผู้ใดที่พยายามเดินทางไปที่นั่นและได้กลับออกมาอีกเลย

 

Imageria

Imageria ดินแดนแห่งจินตนาการ


 
Leave a comment

Posted by on October 26, 2015 in Paragons Setting

 

Immortal Police Detective + Healing Factor (Level 6)

Detective James Heath
ตำรวจอมตะ + ฮีลลิ่งแฟคเตอร์ (Power Level 06: Setting Paragons)

Detective James

Character Concept : ตำรวจอมตะติดเหล้า
Power Level : 6
Power Points : 90

Character Detail
Real name ชื่อจริง : Detective James Heath
Gender เพศ : ชาย
Age อายุ : 36
Height สูง : 1.8 เมตร
Weight น้ำหนัก : 90 กิโลกรัม
Eyes สีตา : น้ำตาลเข้ม
Hair สีผม : น้ำตาลเข้ม

ABILITIES
[STR] Strength กล้าม
[STA] Stamina ถึก
[AGI] Agility คล่อง
[DEX] Dexterity แม่น
[FGT] Fighting ต่อสู้
[INT] Intellect ปัญญา
[AWE] Awareness ไหวพริบ
1 [PRE] Presence บุคลิก

+1 : Initiative [ความเร็วในการเริ่ม Turn]

DEFENSE
2 Dodge [เริ่มต้นเท่ากับ AGI] หลบหลีกโจมตีไกล
3 Parry [เริ่มต้นเท่ากับ FGT] ป้องกันโจมตีประชิด
Fortitude [เริ่มต้นเท่ากับ STA] สุขภาพต้านพิษโรคภัย
2 Toughness [เริ่มต้นเท่ากับ STA] รับการโจมตี
Will [เริ่มต้นเท่ากับ AWE] พลังใจกันถูกสะกด

Skills
– Acrobatics (ได้โบนัสจาก AGI ต้องฝึกถึงใช้ได้) โลดโผน
+5 Athletics (ได้โบนัสจาก STR) กรีฑา
+4 Close Combat[หมัดเปล่า] (ได้โบนัสจาก FGT) ต่อสู้ระยะประชิด
+1 Deception (ได้โบนัสจาก PRE) หลอก
+3 Expertise[Current Events] (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) ชำนาญด้าน[X]
+2 Expertise[Police Officer] (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) ชำนาญด้าน[X]
+3 Expertise[Streetwise] (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) ชำนาญด้าน[X]
+5 Insight (ได้โบนัสจาก AWE) อ่านใจ
+5 Intimidation (ได้โบนัสจาก PRE) ขู่
+5 Investigation (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) สืบ
+5 Perception (ได้โบนัสจาก AWE) ประสาทสัมผัส
 Persuasion (ได้โบนัสจาก PRE) ชักจูง
+5 Ranged Combat[ปืนพก] (ได้โบนัสจาก DEX)ยิงไกล ต้องระบุด้วยว่าอาวุธใด
 Sleight of Hand (ได้โบนัสจาก DEX ต้องฝึกถึงใช้ได้) มือไว
+1 Stealth (ได้โบนัสจาก AGI) ซ่อน
– Technology (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) เทคโนฯ
+2 Treatment (ได้โบนัสจาก INT ต้องฝึกถึงใช้ได้) ดูแลรักษาบาดแผล
+5 Vehicles (ได้โบนัสจาก DEX ต้องฝึกถึงใช้ได้) ขับขี่

Advantage

  1. Equipment 2 = 10 Equipment Points (10 ep)
  2. Ranged Attack 2 = +2 bonus ให้แก่ ranged attack checks

Equipment

  1. Smartphone = 2 ep
  2. ปืนพก Glock 22 [Damage 3] = 7 ep
  3. บ้านTownhouse = มีพื้นที่อยู่อาศัยและห้องออกกำลังกาย

Powers

  1. Healing Factor: Regeneration 20 (20 PP)
    -> Recover from Damage 2 per round (ฟื้นตัว 2 ทุกๆ Combat Round)
  2. Immortal: Immortality 20 (20 PP)
    Return after 3 seconds; Limited: By hand of blood relative (ฟื้นคืนชีพหลังตายภายใน 3วินาที; ไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้หากถูกฆ่าโดยคนที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด)
  3. Never Old: Immunity 1
    -> Immunity Aging (ไม่มีวันแก่)

Complications (อย่างต่ำ 2)

  1. Addiction: James เป็นคนติดเหล้า
  2. Didn’t think this through: เป็นคนชอบทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง ชอบทำก่อนคิด หุนหัน
  3. Guilt: James พยายามที่จะแก้ไขความผิดพลาดต่างๆในอดีต
  4. Motivation: Justice: เป้าหมายของตัวละคร: ความยุติธรรม
  5. Relationship:
    – พ่อ+แม่
    – ลูกสาวอายุ 5ขวบ, Jessica “Jessie” Reagan
    – แฟนเก่า+หัวหน้า+แม่ของลูก, Nora Reagan
  6. Temper: James เป็นคนอารมณ์ร้อนและชอบใช้กำลังในการแก้ปัญหา
 
Leave a comment

Posted by on October 18, 2015 in Character + Equipment & Power

 

Paragons Setting : Paragons

Paragons คืออะไร

DNA บางคนได้เปลี่ยนไป บางคนไม่ มันเพราะอะไรกัน?

Paragons คือกลุ่มมนุษย์ทั่วไป ที่ได้รับพลังบางอย่างจาก Imageria ทำให้สามารถใช้พลังและความสามารถเหนือมนุษย์ได้ โดยที่มาของพลังต่างๆของParagons นั้นก็จะแตกต่างกันไป ตามพลังงานที่ได้รับมาจาก Imageria บางคนอาจจะได้รับพลังมาจากสิ่งมีชีวิตที่มีพลังมหาศาลภายใน Imageria บางคนอาจจะได้รับพลังจากกลุ่มก้อนพลังงานบางอย่าง บางคนอาจจะได้รับพลังจากการไปสัมผัสสิ่งต่างๆใน Imageria เป็นต้น และด้านล่างคือการสรุปคร่าวๆถึงเหล่า Paragons

  • Paragons เป็นมนุษย์ธรรมดาที่ได้รับพลัง
  • Paragons รู้วิธีควบคุมพลังของตนเองทันทีหลังได้รับพลังมา
  • Paragons แต่กำเนิดคือคนที่มีเชื้อสายมาจากParagons คนอื่น
  • พลังของ Paragons มี่ตั้งแต่เล็กน้อยจนแทบไม่มีประโยชน์ ไปจนถึงขั้นสามารถเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงได้
  • Paragons บางคนเกิดจากการที่โดนสิ่งมีชีวิตจากImageriaเข้าสิงหรือหลอมรวมกันทำให้สูญเสียบุคลิกและความเป็นตัวของตัวเองไป
  • Paragons บางคนสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทางDNA แต่บางคนก็ไม่



 

ประเภทความสามารถของ Paragons

หลายๆคนอาจจะมีคำถามอยู่ในใจว่า เหล่า Paragons ทำอะไรได้บ้าง? คำตอบในตอนนี้คือ “ตอบยาก” เนื่องจากพลังของParagonแต่ละคนนั้นไม่ได้มีขีดจำกัดเท่ากันและยังมีการทำงานของพลังไม่เหมือนกันอีกด้วย(แม้พลังบางอย่างจะให้ผลเหมือนกัน) ทำให้ในตอนนี้นั้น เราสามารถทำได้เพียงจัดความสามารถคร่าวๆของเหล่า Paragons ได้เท่านั้น โดยพลังของ Paragons จะถูกแบ่งออกคร่าวๆเป็น 6 หมวดหมู่ ดังนี้

1. Physical Abilities (ผู้มีความสามารถทางกาย)

พลังที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้นั้นจะเป็นพลังที่เพิ่มความสามารถทางกายภาพของมนุษย์ทั่วไปให้มากขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็น พละกำลัง ความเร็ว ความคล่องแคล่ว ความแข็งแกร่ง และความอดทน ต่างๆ พลังหลายๆอย่างของPhysical อาจจะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ Miracles ก็ได้เช่นกัน เนื่องจากผลของพลังนั้นสามารถหักล้างกฏของฟิสิกต่างๆลงได้แบบไม่สามารถหาเหตุผลได้ เช่น
การที่Paragon คนหนึ่งมีพลังที่ทำให้เขาวิ่งเร็วเหนือความเร็วเสียงได้ แต่ร่างกายเขากลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากแรงเสียทาน ทำให้สามารถจัดพลังของเขาอยู่ได้ทั้งในหมวดหมู่ Physical และ Miracle
หรือการที่ Paragon ที่แข็งแรงมากสามารถยกเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ขึ้นตั้ง 90องศากับพื้น โดยที่เรือไม่หักหลางจากแรงดึงดูดของโลกและน้ำหนักของเรือ

 

2. Mental Abilities (ผู้มีความสามารถทางจิต)

พลังในหมวดหมู่นี้ คือพลังที่เพิ่มความสามารถในการทำงานทั้งด้านจิตรวมไปถึงการทำงานต่างๆของสมองให้แก่ผู้ใช้ได้ ไม่ว่าจะเป็นความจำ ความสามารถในการคำนวณ และความเร็วในการคิดสิ่งต่างๆ

3. Parasensory Abilities (ผู้มีสัมผัสพิเศษ)

Paragons ที่มีพลังซึ่งเพิ่มความสามารถในด้านประสาทสัมผัสต่างๆให้มากกว่ามนุษย์ทั่วไป จะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นั้ นอกจากนั้นParagonsที่ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้ยังรวมไปถึงผู้ที่มีประสาทสัมผัสพิเศษที่เหนือกว่าประสาทสัมผัสที่มนุษย์มีได้อีกด้วยเช่นการมีประสาทสัมผัสที่6 สามารถมองเห็นดวงวิญญาณ สามารถรับรู้ได้ถึงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าบนโลกเป็นต้น

Paragons บางคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงข้อมูลต่างๆที่วิ่งอยู่ทั่วโลกของเรา

4. Savants (ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง)

เหล่าSavants นั้นคือผู้ที่มีความสามารถเก่งกาจและกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆได้ภายในข้ามคืนเนื่องจากพลังของ Paragons แม้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้อาจจะหรือไม่เคยมีความรู้ในทักษะด้านนั้นๆเลยก็ตามที

ยิ่งมีความรู้มากยิ่งสามารถคิดสิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว

ยิ่งมีความรู้มากยิ่งสามารถคิดสิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว

5. Miracles (ผู้สำแดงปาฏิหาริย์)

Miracles เป็นหมวดหมู่ของพลังที่ไม่สามารถจัดหมวดหมู่หรือจำแนกประเภทได้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังที่ฉีกกฏของฟิสิกออกอย่างสิ้นเชิง พลังหรือพลังที่แปลกประหลาดจนสามารถเรียกได้ว่ามันคือปาฏิหาริย์ หรือแม้กระทั่งพลังที่ดูไร้เหตุผลแบบสุดๆ

หยุดห่ากระสุนที่พุ่งเข้ามา

หยุดห่ากระสุนที่พุ่งเข้ามา

6. Minor Miracles (ผู้มีพลังพิเศษ)

Minor Miracles จัดเป็นหมวดหมู่ย่อยของ Miracles ซึ่ง Minor Miracles คือพลังที่ส่งผมเหมือนMiracles แต่มีความอลังการความยิ่งใหญ่น้อยกว่า Miracles มาก

ตัวอย่างพลังของ Paragons ในหมวดหมู่ต่างๆ

Physicals
– แข็งแรง สามารถยกของหนักหลายสิบตันได้
– ร่างกายมีความอดทนมหาศาลสามารถทนได้แม้การโดนยิงจังๆจากรถถัง
– สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วเหนือเสียง
– ร่างกายมีพลังความสามารถในการฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว

Mental Abilities
– สามารถจดจำทุกอย่างที่เคยเห็นได้
– สามารถอ่านหนังสือได้ทั้งเล่มเพียงแค่การกรีดหนังสือผ่านตาอย่างเร็วๆในครั้งเดียว

– ความสามารถในการศึกษาและทำความเข้าใจในเรื่องต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างมาก

3. Parasensory Abilities (ผู้มีสัมผัสพิเศษ)
– ความสามารถในการดมดีกว่ามนุษย์ทั่วไปหลายสิบเท่า
– ความสามารถในการมองเห็นแสงที่มนุษย์ทั่วไปมองไม่เห็นได้
– สามารถได้ยินเสียงคลื่นความถี่สูงได้
– ตรวจจับสนามแม่เหล็กโลกได้
– รับรู่เวลาและทิศทางได้อย่างแม่นยำ
– สามารถสื่อสารกับสัตว์ได้

4. Savants (ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง)
– ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวะ
– ผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้
– ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและการเข้าสังคม

5. Miracles (ผู้สำแดงปาฏิหาริย์)
– สามารถTeleportไปยังที่ใดก็ได้ภายในโลก
– สามารถบินได้
– สามารถควบคุมต้นไม้ได้
– สามารถเปลี่ยนร่างกายตนเองเป็นมนุษย์คนอื่นได้
– โชคดีแบบสุดๆ
– สามารถหยุดเวลาได้
– สามารถควบคุมน้ำได้
– สามารถสร้างสิ่งต่างๆออกมาจากอากาศได้
– เป็นอมตะ

6. Minor Miracles (ผู้มีพลังพิเศษ)
– ร่างกายอยู่ในสภาพแข็งแรงหุ่นดีตลอดเวลาแม้ไม่ได้ออกกำลังกาย
– สามารถบอกถึงส่วนผสมของอาหารที่กินได้ทันที
– สามารถรับรู้ถึงรสนิยมทางเพศของผู้ที่สัมผัสตัวได้
– สามารถเปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมที่สัมผัสได้ทันที
– สามารถอ่านหนังสือได้ด้วยความเร็วปกติ โดยไม่ต้องเปิดหนังสือ(ขอแค่สัมผัส)
– พลังที่สามารถควบคุมหน้าหัวก้อยของเหรียญที่ทอยได้ (แค่นั้น)




การใช้พลังของ Paragons

ความสามารถในการใช้พลังของ Paragons นั้นเป็นสิ่งที่อยู่ก็เกิดขึ้นมาเองหลังจากที่Paragons ได้รับพลัง โดยเหล่าParagonsหลายคนระบุว่า “อยู่ๆผมก็รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะใช้พลังได้” “มันเหมือนเป็นสัญชาตญาณที่อยู่ๆก็ตื่นขึ้นมาผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร” “มันก็เหมือนกับการที่มนุษย์รู้ว่าต้องกินข้าวยังไง ปลารู้ว่าต้องว่ายน้ำยังไง Paragonsก็แค่รู้ว่าใช้พลังยังไง”
ถึงแม้เหล่า Paragons จะรู้วิธีการใช้งานพลังของตนเองตั้งแต่ได้รับพลังมาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาเหล่านั้นจะเชี่ยวชาญในการใช้พลังของตนเอง เหมือนกับมนุษย์ที่สามารถวิ่งเองได้แต่หากผ่านการฝึกฝนก็จะทำให้เขาวิ่งได้ดีขึ้นเร็วขึ้น การใช้พลังของParagons ก็เช่นกัน

 




Power Surge

ปลดปล่อยพลังที่เก็บซ่อนอยู่ออกมา

Power Surge คือการปลดปล่อยพลังที่กักเก็บอยู่ในตัวเองให้ระเบิดออกมา เนื่องจากร่างกายของมนุษย์นั้นมีขีดจำกัดในการรับพลังงานสะสมต่างๆที่เกิดขึ้นจากใช้พลังของเหล่าParagons และยิ่งParagons เก็บสะสมพลังเหล่านี้ไว้มากเท่าไหร่ผลของ Power Surge ก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น โดย Power Surge นั้นจะเป็นการระบายพลังเหล่านี้ออกมาในรูปแบบของการใช้ำลังที่รุนแรงและไม่สารมารถควบคุมใด้ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายแก่ตัวParagons เองรวมไปถึงคนรอบข้างได้ เช่น

  • Paragon ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วสูง เมื่อเกิด Power Surge ขึ้น อาจจะทำให้เขาไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของตัวเองและทำการเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงด้วยความเร็วสูงสุดจนกว่าผลของPower Surge จะหมดลงได้ ซึ่งอาจจะทำให้เขาชนเข้ากับสิ่งต่างๆจนทำให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้
  • Paragon ที่สามารถเปลี่ยนสิ่งของที่มองเห็นกลายเป็นทองคำได้ อาจจะทำการเปลี่ยนทุกอย่างที่มองเห็นให้กลายเป็นทองคำโดยไม่สามารถควบคุมได้จนกว่าผลของPower Surge จะหมดลง
  • Paragon ที่สามารถควบคุมไฟได้ อาจจะทำให้ร่างกายตัวเองติดไฟและเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ทำลายทุกสิ่งในบริเวณนั้นลงได้
  • Paragon ที่ควบคุมน้ำได้ อาจจะทำให้เกิดซินามิซัดใส่ริมหาดหรือแม่น้ำที่ไกล้ที่สุดได้
  • Paragon ที่ควบคุมกระแสไฟฟ้าได้ อาจะทำให้เกิดไฟดับทั้งเมืองได้

โดยการปลดปล่อย Power Surge นั้นสามารถทำได้โดยความยินยอมของParagon เองที่จะปลดปล่อยพลังจากการควบคุม หรือสามารถเกิดขึ้นได้จากการที่Paragon สูญเสียความสามารถในการควบคุมพลังของตนเองไป โดยเงื่อนไขที่ทำให้เกิด Power Surge ได้มีดังนี้ (ระบุเป็น Game Mechanic)

  • ใช้ extra effort กับพลังของตนเอง และทอย Save ไม่ผ่าน
  • ทอยได้ 1 ในการใช้พลัง
  • ตัวละครติด Condition Stun
  • ตัวละครอยู่ในสภาพเครียดจัด(มากๆ)
  • ตัวละครยินยอมให้เกิด Power Surge ขึ้น
  • ตัวละคร ตาย โดยรู้ตัวหรือรู้สึกเจ็บปวดในขณะตาย (เช่น การโดนแทงตาย การโดนยิงและทนพิษบาดแผลไม่ไหวตาย) // การตายโดยไม่รู้ตัว ตายทันที หรือตายโดยสงบจะไม่ทำให้เกิดPower Surge (เช่น ยินยอมพร้อมใจที่จะตาย โดนยิงหัวแล้วตายทันที ตายตอนนอนหลับ)

 

 
Leave a comment

Posted by on October 14, 2015 in Paragons Setting